สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ส่งสาส์นฮัจญ์ถึงบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์อัลฮะรอม

นโยบายของสหรัฐคือการก่อสงครามและการทำให้ชาวมุสลิมต้องมาเข่นฆ่ากัน

สาส์นฮัจญ์ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่1439 ของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามถึงบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์อัลฮะรอม

"นโยบายของสหรัฐ คือ การก่อสงครามและการทำให้ชาวมุสลิมต้องมาเข่นฆ่ากันเอง"

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ส่งสาส์นถึงบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์อัลฮะรอม โดยถือว่า “การกำหนดสถานที่นัดพบถาวรในการประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นสัญลักษณ์ของเอกภาพของชาวมุสลิม และเป็นการสร้างประชาชาติอิสลาม อีกทั้งท่านผู้นำสูงสุดยังได้ชี้ถึงนโยบายของสหรัฐในการก่อสงครามให้เกิดขึ้นระหว่างชาวมุสลิมด้วยกัน โดยเน้นว่า “จะต้องมีความเฉลียวฉลาดต่อนโยบายอันชั่วร้ายนี้ พิธีการฮัจญ์และการประกาศตัดความสัมพันธ์กับพวกตั้งภาคี คือ การเตรียมพร้อมสู่ความเฉลียวฉลาดอันนี้

เนื้อหาของสาส์นของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งอ่านโดย ท่านฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน กอฎี อัสกัร ตัวแทนวะลียุลฟะกีฮ์ และอะมีรุลฮัจญ์ของอิหร่าน มีดังต่อไปนี้

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ พระผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตายิ่งเสมอ

การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮ์และการประสาทพรพึงประสบแด่ศาสนทูตของพระองค์ อัลมุศฏอฟาและวงศ์วานผู้บริสุทธิ์ อีกทั้งเหล่าสาวกที่ประเสริฐยิ่งของเขา

อัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง ทรงตรัสว่า

وَ اَذِّن فِی النّاسِ بِالحَجِّ یَأتوك رِجالًا وَ عَلی کُلِّ ضامِرٍ یَأتینَ مِن کُـلِّ فَجٍّ عَمیقٍ ‍‍ لِیَشهَدوا مَن‍ـافِ‍ـعَ لَهُم وَ یَذکُرُوا اسمَ اللهِ فیِّ اَیّامٍ مَعلومات

ความว่า

“และจงประกาศแก่มวลมนุษย์เพื่อการทำฮัจญ์ พวกเขาจะมาหาเจ้า ด้วยการเดินเท้า และการขี่อูฐเพรียวทุกตัว โดยมาจากทางไกลในทุกทิศทาง เพื่อพวกเขาจะได้เข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานในผลประโยชน์ของพวกเขาและกล่าวพระนามของอัลลอฮ์ในวันต่างๆที่ถูกรู้จักกัน”

เสียงร้องเรียกแห่งสวรรค์ ได้เชิญชวนหัวใจทั้งหลายของมวลมนุษยชาติในหลายศตวรรษที่ผ่านมา เพื่อให้พวกเขานั้นต้องเข้ามารวมตัวกันสู่หลักเตาฮีด (เอกานุภาพ)

มนุษย์ทุกๆคน คือ ผู้ที่ได้ตอบรับคำเชิญชวนของศาสดาอิบรอฮีม(อ.) อย่างภาคภูมิใจ แม้ว่า หูทั้งหลายนั้นอาจจะไม่ได้ยินเสียง และหัวใจบางส่วนก็ยังถูกซ่อนอยู่ภายใต้ม่านกั้นแห่งความเพิกเฉยและความโง่เขลาก็ตาม

แม้ว่า บางคนนั้นอาจจะคิดว่าไม่สมควรที่จะเข้ามาสู่การเป็นอาคันตุกะแห่งโลกและเขาก็ยังไม่ได้เตรียมพร้อมในตลอดช่วงเวลา หรือว่าเขานั้นอาจจะไม่ได้รับโอกาสอันนี้

บัดนี้ พวกท่านทั้งหลายนั้นได้รับของขวัญอันมีคุณค่านี้ และได้เข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งความปลอดภัยในการเป็นอาคันตุกะของพระผู้เป็นเจ้า

ไม่ว่าจะเป็นทุ่งอารอฟาต มัชอัรอัลฮะรอม ทุ่งมินา ภูเขาศอฟาและมัรวะฮ์ บัยตุลลอฮ์ และมัสยิดอัลฮะรอม อีกทั้งมัสยิดอันนะบะวีย์ และทุกๆสถานที่ของการประกอบพิธีฮัจญ์ และที่บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ทั้งหลาย ในทุกๆส่วนนั้นเป็นห่วงโซ่ของจิตวิญญาณ และการโบยบินของผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ที่เขานั้นต้องรู้จักถึงคุณค่าของโอกาสนี้และจะต้องใช้ประโยชน์เพื่อที่จะทำให้ตนเองนั้นสะอาดบริสุทธิ์ ทั้งยังเป็นเสบียงให้กับเขาในตลอดช่วงอายุขัยของเขาอีกด้วย

จุดที่สำคัญของมนุษย์ทุกคนที่มีความคิดนั้นจะต้องมีความรู้สึก ก็คือ การกำหนดสถานที่นัดพบถาวรของมนุษย์ทุกคนในทุกๆเชื้อชาติและทุกๆปี ณ สถานที่เดียวกัน ในเวลาที่ถูกจำกัด

ความเป็นเอกภาพทางกาลเวลาและสถานที่ คือ หนึ่งในความลี้ลับของการประกอบพิธีฮัจญ์

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือ หนึ่งของความสูงส่งของโองการที่กล่าวว่า

เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมเป็นสักขีพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา

นั่นคือ การพบปะกันในทุกๆปีของประชาชาติอิสลามทุกๆคน ณ บัยตุลลอฮ์อัลฮะรอม

นี่คือ ความลี้ลับของเอกภาพในอิสลาม และเป็นสัญลักษณ์ของการสร้างประชาชาติอิสลาม ที่จะต้องอยู่ภายใต้บ้านของพระเจ้า เพราะว่า บ้านของพระองค์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของทุกๆคน

سَواءً العاکِفُ فیهِ وَ الباد

“อย่างเท่าเทียมกันสำหรับปวงมนุษย์ ทั้งผู้ที่พำนักอยู่ในนั้นและผู้ที่สัญจร”

ฮัจญ์ในสถานที่แห่งนี้ และในกรอบเวลาที่จำกัดนัันได้เชิญชวนมวลมุสลิมทั้งหลายมาสู่เอกภาพในทุกๆปีอย่างสม่ำเสมอ ด้วยกับการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและแฝงไปด้วยกับตรรกะที่เปิดเผย และนี่คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับข้อเรียกร้องของเหล่าศัตรูของอิสลาม โดยการปลุกระดมให้มุสลิมทั้งหลายนั้นต้องเผชิญหน้าในการต่อสู้กันและกันในทุกยุค ทุกสมัย โดยเฉพาะในยุคสมัยนี้

ในวันนี้ พวกท่านจะต้องมองดูในพฤติกรรมของสหรัฐฯ จอมอหังการและอาชญากร ซึ่งนโยบายหลักของสหรัฐฯก็คือ การก่อสงครามโดยที่ต้องการให้มวลมุสลิมนั้นได้เข่นฆ่ากันเอง และนี่คือ ความต้องการและความพยายามของพวกเขา โดยให้ผู้กดขี่ได้กระทำการต่อผู้ถูกกดขี่ ทั้งยังให้การสนับสนุนต่อการก่ออาชญากรรมของผู้กดขี่ โดยไร้ซึ่งความเมตตาต่อผู้ที่ถูกกดขี่ ทั้งยังได้จุดเพลิงไฟแห่งความชั่วร้ายให้ลุกโชติช่วง

มุสลิมทั้งหลายนั้น จะต้องมีความเฉลียวฉลาดและต้องกำจัดนโยบายอันชั่วร้ายนี้ไปให้ได้ ในขณะที่ฮัจญ์นั้นคือ การเตรียมตัวให้พร้อมต่อการมีความเฉลียวฉลาดอันนี้ และนี่คือปรัชญาของการตัดความสัมพันธ์กับพวกตั้งภาคีและเหล่ามหาอำนาจ จอมอหังการในพิธีการฮัจญ์

การรำลึกถึงพระเจ้า คือ จิตวิญญาณของฮัจญ์ ในทุกๆสภาพที่จะต้องทำให้หัวใจทั้งหลายของตนนั้นรู้สึกมีชีวิตชีวาและสดชื่นต่อหยาดฝนแห่งความเมตตา การตะวักกุล (การมอบหมายกิจการยังพระเจ้า) และการเชื่อมั่นต่อพระองค์ คือ รากเหง้าและบ่อเกิดของการมีอำนาจ ความเบิกบาน ความยุติธรรม และความสวยงาม ที่จะต้องทำให้หัวใจของตนนั้นมีรากฐานนี้ ในสภาพเช่นนี้เราจะสามารถปราชัยต่อแผนการร้ายของศัตรูได้

บรรดาฮุจญาจที่เคารพทั้งหลาย พวกท่านอย่าได้ลืมขอพร (ดุอา)ให้กับประชาชาติอิสลาม เหล่าผู้ถูกกดขี่ในซีเรีย อิรัก ปาเลสไตน์ อัฟกานิสถาน เยเมน ลิเบีย ปากีสถาน แคชเมียร์ และเมียนมาร์ อีกทั้งในสถานที่อื่นๆ และขอให้พระองค์ทรงตัดมือของสหรัฐฯและเหล่ามหาอำนาจ จอมอหังการ อีกทั้งเหล่าบริวารของพวกเขาด้วยเถิด

วัสสะลามุอะลัยกุม วะเราะฮ์มะตุลลอฮิ วะบะรอกาตุฮ์

 

ซัยยิดอะลี คาเมเนอี

 

7 ซุลฮิจญะฮ์ 1439

 

700 /