สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

คำปราศรัยที่สำคัญของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ณ ฮะรัมของอิมามโคมัยนี เตหะราน

การเป็นนักปฏิวัติ คือแนวทางเดียวในการพัฒนาและบรรลุสู่เป้าหมาย

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เมื่อช่วงเช้า วันศุกร์ที่ผ่านมา (3 มิ.ย 2016)ในการพปปะครั้งยิ่งใหญ่ของบรรดาประชาชนจากทั่วทุกสารทิศทั่วประเทศ  ณ ฮะรัมท่านอิมามโคมัยนี  (ร.ฎ) โดยท่านผู้นำได้กล่าวถึง ท่านอิมามโคมัยนีว่า  ท่านคือ “บุคลากรที่เป็นผู้ศรัทธา ผู้เคร่งครัดและนักปฏิวัติ” ซึ่งท่านยังเน้นว่า การดำเนินตามแนวทางของท่านอิมามในการปฏิวัตินั้น ถือว่า เป็นวิธีการเดียวในการพัฒนาและบรรลุสู่เป้าหมายของประชาชนและรัฐอิสลามอย่างแท้จริง

และท่านผู้นำยังกล่าวถึง ห้าประการของคุณลักษณะพิเศษที่สำคัญของการเป็นนักปฏิวัติ และกล่าวเสริมว่า จำเป็นที่จะต้องนำประสบการณ์ในการเจรจานิวเคลียร์มาปฏิบัติ หมายความว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อใจต่อพวกอเมริกา อีกทั้งจะต้องมีการดำเนินการขับเคลื่อนในการพัฒนาก้าวหน้าของประเทศอย่างต่อเนื่องด้วย

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ปราศรัยในงานวโรกาสครบรอบยี่สิบเจ็ดปีของการอสัญกรรม ท่านอิมามโคมัยนี  (ร.ฎ) โดยท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวถึงคุณลักษณะของอิมามโคมัยนี คือ  ผู้ศรัทธาที่เคร่งครัดและเป็นนักปฏิวัติ และท่านผู้นำเสริมอีกว่า ท่านอิมามผู้ทรงเกียรติ คือ ผู้ศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า ,ประชาชน ,เป้าหมาย และแนวทางที่นำพาเไปสู่จุดมุ่งหมายที่แท้จริง

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวถึง คุณลักษณะที่เฉพาะของท่านอิมาม (ร.ฎ) ว่า ท่านนั้นคือบ่าวผู้ทรงธรรมของพระเจ้า ผู้ที่มีความนบน้อมถ่อมตนและเป็นผู้ที่เคร่งครัดต่อศาสนาอย่างมาก

ท่านผู้นำสูงสุดได้ชี้ถึง คุณลักษณะประการที่สามของท่านอิมามโคมัยนี โดยกล่าวว่า 

ท่านอิมาม คือ "อิมาม(ผู้นำ)แห่งการปฏิวัติ" และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชาติมหาอำนาจฝ่ายวัตถุนิยมเกิดความไม่พอใจต่อท่านอิมามเป็นอย่างยิ่ง

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เน้นว่า ชาติมหาอำนาจ มีความหวาดกลัวอย่างรุนแรงต่อ คำว่า “การปฏิวัติและการปฏิวัติของประชาชนชาวอิหร่าน” ท่านยังกล่าวเสริมว่า เหตุผลหลักของการบีบกั้นและกดดันที่เกิดขึ้นมาหลายปีที่ผ่านมา ด้วยกับข้ออ้างต่างๆนานาเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนิวเคลียร์ และสิทธิมนุษยชน ที่ถูกนำเข้ามาสู่ประเทศ ก็คือ ลักษณะการเป็นนักปฏิวัติของประชาชนอิหร่านและการจัดตั้งระบบการปกครองรัฐอิสลาม นั่นเอง

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงการที่อิหร่านออกจากการถูกควบคุมโดยชาติมหาอำนาจและเกิดการเปลี่ยนแปลงสู่การปกครองแบบรัฐอิสลาม ซึ่งถือว่าเป็นแรงบันดาลใจให้กับประเทศทั้งหลาย โดยท่านกล่าวว่า ปัญหาหลักก็คือการที่ท่านอิมาม ผู้นำของการปฏิวัติได้นำประเทศออกจากการทุจริตคอรัปชั่นต่างๆ อาทิเช่น การทุจริตด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ,ทางการเมือง , ศีลธรรม ,ความล้าหลังทางวิชาการ ทางเศรษกิจ, เทคโนโลยี และ ความตกต่ำระหว่างประเทศ จากการถูกชี้นำโดยอเมริกาและอังกฤษ และท่านอิมามยังได้เปลี่ยนแปลงในการขับเคลื่อนของประเทศ เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังเน้นว่า ท่านอิมาม ได้เปลี่ยนแปลงทิศทางในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นั้น หมายถึง การปกครองศาสนาของพระเจ้า

 ท่านผู้นำยังกล่าวเสริมว่า การปกครองศาสนาของพระเจ้า หมายถึง การเกิดขึ้นของความยุติธรรมทางสังคมที่แท้จริง ,การขจัดความยากจนและความโง่เขลา และการกำจัดปัญหาสังคมและความอ่อนแอ สร้างระบบคุณค่าของอิสลาม, ความปลอดภัยทางสุขภาพ ศีลธรรม จิตวิญญาณ , ความก้าวหน้าทางวิชาการ เกียรติยศและตัวตนของชาติ และการมีอำนาจระหว่างประเทศ และมีการปฏิบัติตามขีดความสามารถของประเทศ

ท่านผู้นำสูงสุดยังเน้นว่า ท่านอิมามได้ขับเคลื่อนประเทศนี้ ด้วยกับบะรอกัต (ความสิริมงคล) ของการปฏิวัติอิสลาม ท่านผู้นำยังกล่าวอีกว่า แม้ว่า ในการบรรลุถึงเป้าหมายเหล่านี้ต้องใช้เวลามากและความพยายามที่สามารถจะทำได้ แต่ทว่าจะเกิดขึ้นได้ต้องมีเงื่อนไขในการก่อให้เกิดการปฏิวัติ คือ การเคลื่อนไหวตามแนวทางของการปฏิวัติและนักปฏิวัติอิสลาม

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวถึง ชนิดของปัญหาที่เกิดขึ้นในการขับเคลื่อนรัฐอิสลาม โดยกล่าวเสริมว่า : หลังจากการอสัญกรรมของท่านอิมาม ผู้ทรงเกียรติ ในการปฏิวัติอิสลามในแต่ละขั้นตอน เราก็ได้มีการพัฒนา และในแต่ระยะเวลาจากการละเลยในการปฏิวัติอิสลาม และการขับเคลื่อนการญิฮาด เราก็จะพบกับความล้าหลังและล้มเหลว 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวถึงประชาชนทุกๆคนว่า เราสามารถที่จะขับเคลื่อนในแนวทางนี้ด้วยกับวิธีการของการปฏิวัติอิสลาม ในสภาพเช่นนี้ เราก็จะพบกับความก้าวหน้าอย่างแท้จริง และหากว่าเราได้ใช้วิธีการอื่นๆในการขับเคลื่อน ในสภาพนี้ จะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมที่เลวร้ายต่อประเทศอิหร่านและอิสลาม  

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การปฏิวัติของอิสลาม คือ ทุนอันพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศและประชาชาติโดยเน้นว่า ในการทำให้การปฏิวัติอิสลามมีผลสำเร็จ จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายอย่างมากมาย ในขณะเดียวกัน จากค่าใช้จ่ายดังกล่าว ก็จะเกิดผลประโยชน์อย่างมหาศาลด้วยเช่นกัน 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงความแข็งแกร่งของการปฏิวัติอิสลาม หลังจากที่ผ่านมา 37 ปีโดยกล่าวว่า ในวันนี้ เงื่อนไขของประเทศอิหร่านนั้น มีความกระจ่างชัดมากกว่าเดิม  และยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะต้องหลีกเลี่ยงอีกมากด้วยยิ่งขึ้น 

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามเน้นว่า : การเกิดขึ้นของการปฏิวัตินั้นด้วยกับความมุ่งมั่น, ความประสงค์ อีกทั้งความเชื่อของประชาชน และด้วยกับพลังประชาชนเหล่านี้จึงทำให้การปฏิวัติยังคงอยู่ และจากการยืนหยัดต่อต้านการข่มขู่ทางการทหารและการคว่ำบาตรต่างๆ และด้วยกับความกล้าหาญและความภาคภูมิใจ ทำให้มีการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องและหลังจากนี้ จะต้องมีการขับเคลื่อนในการปฏิวัติอีกต่อไป 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงการปฏิวัติมิใช่เฉพาะจำกัดในช่วงสมัยของการต่อสู้ของท่านอิมามโคมัยนี เท่านั้น ท่านผู้นำกล่าวว่า การปฏิวัติและนักปฏิวัติจะยังคงมีทุกยุคทุกสมัย เหมือนดั่งแม่น้ำที่ไหลผ่าน และทุกๆคนจะต้องมีการปฏิบัติการตามลักษณะพิเศษของการเป็นนักปฏิวัติ  แม้ว่า บรรดาเยาวชนทั้งหลายที่ยังไม่เคยเห็นท่านอิมามก็ตาม พวกเขาก็เป็นนักปฏิวัติได้เหมือนกัน   

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในข้อผิดพลาดที่เป็นอันตรายยิ่ง ก็คือ การนำเอาแนวคิดในการปฏิวัติอิสลามมาเปรียบเทียบเท่ากับกลุ่มหัวรุนแรงนิยม  ซึ่งพวกเขาได้แบ่งประชาชนออกเป็น "กลุ่มนิยมหัวรุนแรง" และ "กลุ่มนิยมปานกลาง" 

และท่านผู้นำกล่าวว่า การแบ่งสองกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นของฝากของชาติตะวันตก และคำพูดของศัตรู จะไม่ต้องนำเข้ามายังวัฒนธรรมทางการเมืองของประเทศ 

ท่านผู้นำสูงสุดยังชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งในการปฏิวัติและการเป็นนักปฏิวัติโดยกล่าวว่า การคาดหวังของมาตราการในการปฏิวัติที่ทุกคนจะต้องดำเนินตามแนวทางทั้งหลายและกำหนดทิศทางต่างๆในการขับเคลื่อนในการปฏิวัตินั้น ถือว่า นี่คือข้อผิดพลาดอย่างชัดเจน ซึ่งในการปฏิวัตินั้นจะต้องมีหลักการที่บ่งบอกถึงลักษณะพิเศษของการเป็นนักปฏิวัติที่แท้จริง

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า เป็นไปได้ว่า แต่ละบุคคลเขานั้นอาจจะนำแนวคิดของการปฏิวัติมาและการขับเคลื่อนจากปฏิบัติในการปฏิวัติที่ดีกว่า และอีกบุคคลหนึ่งมิได้มีความจริงจังในการขับเคลื่อน ซึ่งเขาทั้งสองก็คือ นักปฏิวัติ และเราไม่สามารถจะกล่าวได้ว่า บุคคลใดก็ตามที่เขานั้นดำเนินตามลักษณะพิเศษของการปฏิวัติ แต่ทว่าเขาไม่มีการขับเคลื่อนที่ดี  เขาถูกกล่าวหาว่า เขาคือผู้ที่มิใช่นักปฏิวัติและต่อต้านการปฏิวัติ 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อธิบายถึง มาตราชี้วัดในการปฏิวัติจะต้องมีลักษณะพิเศษ ห้า ประการดังนี้ 

"การมีความยึดมั่นต่อหลักการพื้นฐานและค่านิยมของการปฏิวัติอิสลาม", "การมีเป้าหมายอย่างต่อเนื่องในอุดมการณ์ของการปฏิวัติและมีความพยายามในการบรรลุสู่เป้าหมาย" "การมีความมั่นคงต่อความเป็นอิสระภาพของประเทศ” "ความรู้สึกตอบสนองต่อภัยคุกคามของกับศัตรูและการไม่ปฏิบัติตามพวกเขา" และ "การมีตักวา (ยำเกรง) ทางศาสนาและการเมือง” 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้อธิบายถึงลักษณะพิเศษประการแรกของการเป็นนักปฏิวัติก็คือ  "การมีความยึดมั่นต่อค่านิยมและหลักการพื้นฐานของการปฏิวัติ โดยกล่าวเสริมว่า การมีศรัทธาในอิสลามที่บริสุทธิ์ตรงกันข้ามกับอิสลามแบบอเมริกา นี่คือ ประเด็นสำคัญของลักษณะพิเศษนี้ 

 

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า อิสลามแบบอเมริกา ถูกแบ่งออกเป็น สองสาขา อิสลามแบบ "อนุรักษ์นิยม" และ "อิสลามแบบเซคคิวลาร์" ซึ่งชาติมหาอำนาจจอมอหังการให้การสนับสนุนอิสลามทั้งสองสาขา

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า  "ความมีศรัทธาอย่างลึกซึ้งต่อการที่ประชาชนเป็นองค์ประกอบหลัก" คือ หนึ่งในหลักการของการปฏิวัติ  ซึ่งท่านผู้นำเน้นว่า : ในระบบการปกครองของอิสลาม "คะแนนเสียง ,ความเรียกร้องและผลประโยชน์ของประชาชน" คือหลักการและการมีความเชื่อที่แท้จริงในสิ่งเหล่านี้ ถือว่า นี่คือความจำเป็นของการเป็นนักการปฏิวัติ 

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติ ถือว่า  "ความพัฒนาก้าวหน้า ,การเปลี่ยนแปลง และการมีวิวัฒนาการ" คือ หลักการจากค่านิยมหลักของการปฏิวัติ ท่านยังกล่าวเสริมว่า : บุคคลที่เป็นนักปฏิวัติจะต้องมีความเชื่อมั่นต่อค่านิยมเหล่านี้ด้วยเช่นกัน และในทุกๆวันก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

"การให้การสนับสนุนต่อผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มชนที่อ่อนแอ และ "การให้การสนับสนุนต่อบรรดาผู้ถูกกดขี่ของโลก" คือ อีกค่านิยมที่ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้อธิบายถึงลักษณะพิเศษประการที่หนึ่งของนักปฏิวัติ หมายถึง การมีความยึดมั่นต่อพื้นฐานและหลักการของการปฏิวัติ 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า : ถ้าหากว่าความหมายของการยึดมั่น คือ การต้านทาน ตามทัศนะของคัมภีร์อัลกุรอาน นั้นหมายถึงในการขับเคลื่อนของบรรดาเจ้าหน้าที่และรัฐที่ดุจดั่งเป็นพายุลมกรดที่มั่นคง ในสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น  แต่ถ้ามิได้เป็นเช่นนั้น จะเป็นการปฏิบัติการณ์แบบกลุ่มสุดโต่ง และจะมีการเปลี่ยนแปลงในทุกเหตุการณ์และทิศทางในการขับเคลื่อน

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี หลังจากที่อธิบายถึง ลักษณะพิเศษประการที่สอง หมายถึง การมีความเพียรพยายามในการพัฒนาก้าวหน้า และนำไปสู่อุดมการณ์ของการปฏิวัติ โดยกล่าวเสริมว่า ไม่ควรขัดขวางต่อการบรรลุสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติและประชาชน หรือว่าพวกเขานั้นยินยอมให้มีสภาพเช่นนี้ต่อไป 

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า  "ความเกียจคร้าน , อนุรักษ์นิยมและความหมดหวัง" คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับลักษณะพิเศษนี้ และท่านเน้นว่า แนวทางในการพัฒนา จะไม่มีที่สิ้นสุด และจะต้องมีการดำเนินการตามแบบการปฏิวัติและขับเคลื่อนในทิศทางนี้ ต่อไป

ลักษณะพิเศษประการที่สาม คือ "การยึดมั่นต่อความเป็นอิสระภาพ " ซึ่งท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม  ได้กล่าวปราศรัยในการรวมตัวครั้งใหญ่ของบรรดาประชาชน ในวโรกาสครบรอบยี่สิบเจ็ดปีของการอสัญกรรมของท่านอิมามโคมัยนี  ว่า มีการอธิบายถึงสามมุมและสามมิติ: ทางการเมือง วัฒนธรรมและเศรษฐกิจของประเทศ

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ความหมายที่แท้จริงของความเป็นอิสระภาพทางการเมืองคือ การที่อย่าหลงเล่ห์กลลวงของศัตรูที่พวกเขาใช้วิธีการต่างๆและในสถานการณ์ต่างๆ ดังนั้น เราจะต้องระมัดระวัง ความเป็นอิสระภาพของท้องถิ่น ,ภูมิภาคและในระดับโลก 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึง วิธีการต่างๆและกลลวงของบรรดาศัตรู โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา และกล่าวว่า : ด้วยกับการข่มขู่คุกคาม พวกเขาไม่สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้ในบางครั้ง ด้วยกับรอยยิ้มและการพูดจาประจบสอพลอ ตัวอย่างเช่น พวกเขาได้เขียนจดหมายว่า เรามาร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาของโลก ในสภาพเช่นนี้ เป็นไปได้ว่า มนุษย์มีการกระซิบกระซาบว่า ดีที่สุด เรานั้นจะต้องไปร่วมมือกันกับชาติมหาอำนาจในการแก้ไขปัญหาต่างๆของโลก ในขณะที่เรานั้น กลับลืมไปว่า ศัตรูนั้นมีที่วัตถุประสงค์อื่นๆอีกที่ซ่อนเร้นอยู่ 

ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า : การที่ศัตรูได้เชิญให้เข้ามาร่วมมือในการแก้ไขปัญหาต่างๆของโลก หมายถึง การเชิญเพื่อขอความช่วยเหลือและการแสดงบทบาทในการละเล่น และสนามเด็กเล่น ที่พวกเขาคนวาดมันขึ้นมาและกำหนดไว้เอง 

ท่านผู้นำสูงสุด ได้ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของซีเรีย ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาซีเรียและปัญหาที่คล้ายคลึงกันนั้น เราไม่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรของอเมริกา เพราะว่า ด้วยเหตุผลนี้ที่เรานั้นทราบดีว่า พวกเขาต้องการใช้ประโยชน์จากการมีอำนาจและอิทธิพลของเรา และประเทศอื่นๆในการบรรลุเป้าหมายที่พวกเขาต้องการ 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นย้ำอีกว่า การกระทำเช่นนี้ หากมองอย่างผิวเผินเห็นได้ว่า มิได้ขัดแย้งกับความเป็นอิสระภาพ ซึ่งในด้านการปฏิบัติ มีความหมายว่า การเติมตารางงานของศัตรูให้เต็ม และในความเป็นจริงนั้น คือการต่อต้านความเป็นอิสระภาพอย่างแท้จริง 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี อธิบายถึงองค์ประกอบประการที่สองของความเป็นอิสระภาพ ก็คือ “อิสระภาพทางวัฒนธรรม" และเน้นย้ำว่า การเป็นนักปฏิวัติ หมายถึง "การเลือกวิถีชีวิตอิหร่านแบบอิสลาม" และ "หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามตะวันตกและชาติมหาอำนาจอย่างจริงจัง " 

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ในกรณีเช่นนี้ มีสื่ออุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในโซเชี่ยลมีเดีย เป็นสื่อที่ใช้ในการบริหารข้อมูล และการครอบครองของตะวันตกต่อวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ และกล่าวเสริมว่า สื่ออุปกรณ์เหล่านี้ จะมีประโยชน์ได้ก็ต่อเมื่อปราศจากอำนาจการแทรกแซงของศัตรู โดยที่มีการปฏิบัติการในโซเชี่ยลมีเดียที่ไม่มีการแทรกแซงและการครอบงำของบรรดาศัตรู 

"ความเป็นอิสระภาพทางเศรษฐกิจ" หมายความว่า การไม่ถูกย่อยในระบบทางเศรษฐกิจของประชาคมโลก อีกประเด็นที่สำคัญ คือ การที่ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามได้อธิบายถึง ลักษณะพิเศษประการที่สาม ของการเป็นนักปฏิวัติ คือ "ความยึดมั่นใน​​อิสระภาพของประเทศ" 

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า: พวกอเมริกาหลังจากที่สิ้นสุดในการเจรจานิวเคลียร์ ต่างพูดกันว่า ข้อตกลงทางนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้น จะต้องเป็นในรูปแบบของการรวมตัวทางเศรษกิจของอิหร่านให้เข้ากับเศรษฐกิจโลก ซึ่งหมายความว่า อิหร่านจะถูกย่อยและดูดซึมเข้ากับแผนการณ์และระบบทุนนิยมที่ไซออนิสต์เป็นผู้วาดแผนผังในการยึดผลประโยชน์ทางการเงิน 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เน้นย้ำว่า การที่สหรัฐอเมริกาต้องการคว่ำบาตต่ออิหร่านนั้น มีความต้องการที่จะทำให้อิหร่านประสบกับความพิการทางเศรษฐกิจ และในขณะนี้ การเจรจาได้เป็นที่สิ้นสุดแล้ว ซึ่งพวกเขามีความต้องการให้เศรษฐกิจของอิหร่านนั้น ถูกย่อยเข้ากับเศรษฐกิจโลก ที่มีผู้นำทางเศรษฐกิจอย่าง อเมริกา  เป็นผู้ชักนำพา

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวถึงเศรษฐกิจต้านทาน เป็นวิธีการเดียวที่จะบรรลุสู่ความเป็นอิสระภาพทางเศรษฐกิจ และท่านกล่าวเสริมว่า : นับว่าเป็นโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลตามการรายงานที่กล่าวไปนั้น ในปีแห่ง “เศรษฐกิจต้านทาน, การดำเนินการและการปฏิบัติ” ได้เริ่มต้นในการดำเนินการไปแล้ว ถ้าหากว่ามีการดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ แน่นอนยิ่ง ประชาชนก็จะเห็นผลของความสำเร็จดังกล่าวอย่างแน่นอน  

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวว่า ในทุกๆการตัดสินใจที่สำคัญและภารกิจทั้งหมด รวมถึงการทำสัญญากับประเทศอื่นๆ จะต้องได้รับการพิจารณาในเศรษฐกิจต้านทานอย่างจริงจัง 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าววิจารณ์บุคคลที่ถือว่า ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจต้องผ่านจากการลงทุนในต่างประเทศเพียงเท่านั้น และท่านยังกล่าวอีกว่า ในการดึงดูดการลงทุนต่างประเทศเป็นการที่ดีและมีความจำเป็น แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ การช่วยทำให้มีกำลังการผลิตภายในของประเทศและไม่ต้องตั้งเงื่อนไขในการดึงดูดจากการลงทุนต่างประเทศ จึงจะมีการลงทุนอื่นๆได้

ท่านผู้นำสูงสุดยังกล่าวถึง มุมมองลักษณะนี้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และการพัฒนาว่า : ถ้าหากว่า ประเทศต่างๆให้เทคโนโลยีเหล่านี้ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่ได้ให้ เยาวชนชาวอิหร่านก็มีความสามารถในด้านนาโน เทคโนโลยี นิวเคลียร์ จะทำการเปลี่ยนแปลงให้อิหร่านติดอันดับที่สิบของประเทศยอดเยี่ยมของโลกให้ได้ และถ้าหากว่ามีการวางแบบแผนที่เหมาะสมแล้ว ประเทศก็จะมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอย่างแน่นอน 

ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม หลังจากที่อธิบายถึงลักษณะพิเศษที่สี่ของการเป็นนักปฏิวัติ ก็คือ การรู้สึกตอบสนองต่อภัยคุกคามของศัตรู

ท่านผู้นำสูงสุด ยังเน้นว่า ในสงครามนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบและวิเคราะห์ทุกการเคลื่อนไหวของศัตรู ,รู้จักถึงเป้าหมายของพวกมัน และมีความรู้สึกที่จำเป็นในการตอบโต้กับความร้ายแรงที่เป็นเหมือนยาพิษที่ศัตรูใช้ที่จะต้องมียาแก้พิษนั้น  

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าววิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่ได้ปิดหูปิดตาของเขายอมรับความเป็นศัตรูอย่างเปิดเผยและบ่อยครั้งของอเมริกา เขาบอกว่า คำพูดของศัตรู ถือว่า เป็น"แผนการณ์การสมรู้ร่วมคิด" ท่านผู้นำยังกล่าวเสริมอีกว่า การปฏิเสธบรรดาศัตรูอย่างลึกซึ้งและอย่างต่อเนื่องและเปิดเผยของอเมริกากับสาธารณรัฐอิสลามและประเทศอิหร่านคือ แผนการณ์สมรู้ร่วมคิดในการลดความรู้สึกในการโต้ตอบกับซาตานตัวใหญ่ 

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความเป็นศัตรูของอเมริกากับการปฏิวัตินั้น คือตัวตนที่แท้จริง โดยท่านยังกล่าวเสริมอีกว่า : ระบบการปกครองของชาติมหาอำนาจในการก่อสงคราม ,การสนับสนุนการก่อการร้าย, การริดรอนสิทธิเสรีภาพและการปกครองแบบเผด็จการต่อชาวปาเลสไตน์ผู้ถูกกดขี่ จะถูกเปิดเผยออกมาและระบบการปกครองแบบรัฐอิสลามจะไม่ปล่อยให้หยุดนิ่งเงียบในการต่อต้านกับระบบการปกครองนี้ 

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม เน้นย้ำว่า ความช่วยเหลือโดยตรงของอเมริกาให้กับประเทศที่โจมตีประชาชนผู้บริสุทธิ์เยเมน ,การมีส่วนร่วมในการวางระเบิดและเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ และกล่าวว่า: ตามคำสอนของศาสนาอิสลามคือ การไม่ได้อยู่นิ่งเฉย  กับอาชญากรรมต่างๆเหล่านี้ 

 อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เน้นถึงคำพูดของตนและกล่าวว่า : ทุกๆคนนั้นในปรากฏการณ์ต่างๆที่มีการปฏิบัติกันในนามศาสนาอิสลาม ถ้ามีการไว้วางใจต่ออเมริกาก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดอันใหญ่หลวง

ท่านผู้นำสูงสุด ชี้ให้เห็นว่า เมื่อปีที่ผ่านมา บางกลุ่มของมุสลิมในภูมิภาคนี้ ที่เรียกกันว่า "ปัญญาทางการเมือง" และ "กลยุทธ์" ซึ่งเคยทำงานร่วมมือกับพวกอเมริกา แต่ตอนนี้กลับถูกซาตานตัวใหญ่นั้นหลอกลวง 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า อังกฤษคือ อีกศัตรูหนึ่งของอิหร่าน ที่เป็นความชั่วร้ายอย่างแท้จริงและท่านผู้นำยังกล่าวเสริมว่า : อังกฤษยังไม่เคยลดในความชั่วร้ายของตนกับประเทศอิหร่านเลย 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า : ในการเป็นศัตรูอย่างต่อเนื่องนี้ เห็นได้ว่า รัฐบาลอังกฤษได้ใช้สื่อในการโฆษณาชวนเชื่อในวันครบรอบอสัญกรรมของท่านอิมาม ผู้ยิ่งใหญ่แและบริสุทธิ์ ด้วยกับความช่วยเหลือของพวกอเมริกาและมีการปลอมแปลงเอกสารในการต่อต้านท่านอิมามและประเทศอิหร่าน 

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ระบอบการปกครองยิวไซออนิสต์ ที่อเมริกาและอังกฤษมีการปฏิบัติตาม และท่านยังเน้นว่า จำเป็นที่จะต้องมีความรู้สึกโต้ตอบต่อศัตรูและข้อเสนอของพวกมัน เช่น ใบสั่งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ ถ้าหากว่ามีความรู้สึกตอบโต้เกิดขึ้น สิ่งที่จะตามมาก็คือ การไม่ยอมปฏิบัติตาม ซึ่งเราเรียกการกระทำนี้ว่า การญิฮาดที่ยิ่งใหญ่ 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังอธิบายถึงลักษณะพิเศษประการสุดท้ายของการเป็นนักปฏิวัติ คือ  "ความมีตักวาทางศาสนาและการเมือง" ท่านยังกล่าวว่า การมีตักวาทางศาสนา หมายความว่า การเพียรพยามและการระมัดระวังในการบรรลุสู่เป้าหมายที่อิสลามเป็นตัวกำหนดและเรียกร้อง 

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า ในบริบทนี้ไม่ควรอาศัยการคิดคำนวณทางปัญญาเพียงอย่างเดียว เพราะว่า การแสวงหาเป้าหมายเหล่านี้คือหน้าที่ของศาสนา และบุคคลใดก็ตามที่ทำให้อิสลามออกจากสังคมและการเมือง ศาสนาที่แท้จริงของพระเจ้า จะไม่ถูกรู้จักอย่างแน่นอน

ท่านผู้นำสูงสุดในการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมอีกว่า: ถ้าหากว่า มีการตักวาทางศาสนา ก็จะต้องมีตักวาในด้านการเมืองด้วยเช่นกัน ที่ป้องกันมนุษย์ออกจากข้อผิดพลาดทางการเมืองและการรับผิดชอบหน้าที่ 

ในช่วงท้ายของคำปราศรัย ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ในการรวมตัวครั้งสำคัญของประชาชนชาวอิหร่านและการให้สัตยาบันอีกครั้งด้วยกับอุดมการณ์ของท่านอิมาม โดยท่านผู้นำได้กล่าวถึงสิ่งที่สำคัญหลายประการ ซึ่งประการแรกก็คือ การถือว่า ท่านอิมามโคมัยนี นั้นคือ แบบอย่างที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง 

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวว่า  : แบบแผนของแนวทางนี้ซึ่งในวันนี้มีการวาดภาพให้เห็นและคำอธิบายเกี่ยวกับท่านอิมามที่มีคุณสมบัติที่สูงส่งนั้น จะต้องถือว่า ท่านนั้นเป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง 

ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า การครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งในหนังสือ เศาะฮีฟะอิมาม และคำสั่งเสียของท่าน ,การมีความรักต่อถ้อยคำและสถานภาพของท่านอิมาม เป็นอีกแนวทางหนึ่งสำหรับการนำมาเป็นแบบฉบับและแบบอย่าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเยาวชนทั้งหลาย จะต้องมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย สิ่งสำคัญประการที่สองของท่านผู้นำสูงสุด ก็คือ "อย่าหลงลืมประสบการณ์ที่ได้รับจากการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์" 

ท่านผู้นำสูงสุดยังเน้นว่า ในประสบการณ์นี้ได้สอนให้เรารู้ว่า ถ้าหากว่า เรายอมอ่อนข้อให้กับอเมริกา พวกเขาก็ไม่ได้หยุดยั้งในแผนการณ์การทำลายล้าง 

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงการเจรจาของกลุ่ม 5 + 1  และแม้กระทั่งการเจรจาแบบแยกต่างหากกับอเมริกาในประเด็นปัญหานิวเคลียร์ และท่านยังกล่าวเสริมว่า : ด้วยกับความเพียรพยายามของบรรดาพี่น้องของเรา ทำให้เรานั้นพบประเด็นที่เป็นจุดร่วมกัน แต่ทว่า พวกอเมริกาในปัจจุบันนี้ มิเคยรักษาสัญญาที่ให้ไว้ 

ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ก่อนการเจรจานิวเคลียร์ ส่วนมากนั้นรู้ถึงพฤติกรรมของพวกอเมริกาอย่างดี และได้คาดการล่วงหน้าไว้แล้ว แต่ทว่าบางคนนั้นไม่ได้รู้จัก จึงจำเป็นที่พวกเขาจะต้องรู้จัก

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม เน้นว่า ถ้าหากมีความเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เช่นในด้านสิทธิมนุษยชน, ขีปนาวุธ, การก่อการร้าย, เลบานอน, ปาเลสไตน์และปัญหาใดๆก็ตาม ที่มีการเจรจากับอเมริกา และถ้าหากว่า เรายอมอ่อนข้อให้กับศัตรู พวกมันก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับเรา หลังจากที่มีรอยยิ้มและคำพูดต่างๆของพวกมัน ซึ่งก็จะมีการปฏิบัติตามเป้าหมายของพวกมันต่อไป คำชี้แนะประการที่สามของท่านผู้นำสูงสุด "ความเป็นหนึ่งเดียวกันของรัฐบาลและประชาชน 

ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมอีกว่า: บุคคลใดก็ตามที่เป็นไปได้ว่า เขานั้นรู้สึกชอบต่อการบริหารของรัฐบาลหรือรู้สึกไม่ชอบก็ตาม แต่สิ่งนี้มิได้เป็นปัญหา ซึ่งจะต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน มิใช่การสร้างความแตกแยก

อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า แน่นอนยิ่งในการวิจารณ์และการเรียกร้องจากทุกรูปแบบของรัฐบาลนั้นมิได้เป็นปัญหาที่ขัดแย้งกับความเป็นเอกภาพ ขณะเดียวกัน เราได้กล่าวไปแล้ว เวลาที่รัฐบาลที่จะต้องระวังอย่าให้เกิดความมืดหมองต่อกัน และทุกฝ่ายจะต้องมีหัวใจเดียวกันในต่อต้านภัยคุกคามทั้งหมดของศัตรู

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติเน้นถึง "ความเป็นหนึ่งเดียวกันของสภาทั้งสาม และท่านยังเสริมอีกว่า มิได้ขัดแย้งกับการปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฏหมาย แต่อย่าได้เกิดความรู้สึกส่วนตัวหรือพรรคพวกในความเป็นหนึ่งใจเดียวกัน 

อยาตุลลอฮ์ เน้นอีกว่า จะต้องหลีกเลี่ยงจากการพูดสองแง่สองง่ามและสร้างความแตกแยก และทำให้ศัตรูเห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวของอิหร่านให้ได้ คำชี้แนะประการที่สี่ของท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม คือ  "การเผชิญหน้ากันกับพวกอเมริกา" 

ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามถือว่า ในขณะอเมริกาคือฝ่ายตรงกันข้ามที่มีการแทรกซึมในสถานที่ต่างๆและบางครั้งภายในประเทศ ซึ่งจะต้องระวังการแทรกซึมที่ซ่อนเร้นนี้ของศัตรูโดยต้องมีการเผชิญหน้ากันอย่างเปิดเผย 

"การกำหนดเส้นทางที่ชัดเจนและเต็มรูปแบบในการต่อกรกับศัตรู" ถือว่า เป็นคำชี้แนะประการที่ห้าของท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามในวันครบรอบยี่สิบเจ็ดปีของการอสัญกรรมท่านอิมามโคมัยนี"

ท่านผู้นำสูงสุด เน้นอีกว่า ปรากฏการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศ ทำให้ละเลยจากความจำเป็นอันนี้ มิได้มีการป้องกันเส้นเขตชายแดน ,สร้างช่องว่าง ,ทำให้อ่อนแอ และมีจำนวนลดลง เราจะต้องระวังเส้นเขตชายแดนที่ไม่ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างการปฏิวัติอิสลาม,ท่านอิมามและประเทศอิหร่าน

และคำชี้แนะสุดท้ายของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถึงประชาชนอิหร่านและบรรดาเจ้าหน้าที่ ก็คือ จงเชื่อมั่นต่อสัญญาในการช่วยเหลือของพระเจ้าและมั่นใจว่าในอนาคต ประชาชนและเยาวชนอิหร่านจะประสบชัยชนะเหนือบรรดาศัตรูอย่างแน่นอน

 ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติ ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิด ฮะซัน โคมัยนี ผู้อำนวยการดูแลฮะรัมท่านอิมามโคมัยนี ได้กล่าวถึง การปฏิวัติอิสลาม เป็นการปฏิวัติของพระเจ้าและประชาชน โดยกล่าวว่า การได้รับการชี้นำจากพระเจ้า ,เกียรติยศ ,ความรัก ,ความเมตตา ,เอกภาพ ,ความช่วยเหลือของพระเจ้า และการสนับสนุนจากประชาชน ทั้งหมดนั้น ถือว่า เป็นคุณลักษณะที่พิเศษในการเคลื่อนไหวของท่านอิมามโคมัยนีในการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่นี้ และผลลัพท์ของการต่อสู้และการขับเคลื่อนก็คือ หลังจากการอสัญกรรมของท่านอิมามโคมัยนี การแต่งตั้งผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นตัวแทนของท่าน 

700 /