สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐ ทูตานุทูต และประชาชนเข้าพบปะท่านผู้นำสูงสุด

รู้จักศัตรูที่แท้จริงและการยืนหยัดที่ประชาชาติอิหร่านได้แสดงออก

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันพุธที่ผ่านมา ในการเข้าพบปะของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนจากทุกสารทิศทั่วประเทศ ซึ่งท่านถือว่า แหล่งที่มาหลักของสงคราม ก็คือ ความไม่ปลอดภัยและการก่อการร้ายในภูมิภาคและในโลกอิสลามที่เกิดขึ้นจากมหาอำนาจจอมอหังการซึ่งมีอเมริกาเป็นผู้ชักจูง และท่านผู้นำยังเน้นอีกว่า เป้าหมายของพวกมัน ก็คือ การต่อลมหายใจให้กับไซออนิสต์และให้ลืมประเด็นเรื่องปาเลสไตน์

 ท่านผู้นำยังกล่าวอีกว่า วิธีการเดียวที่จะตอบโต้แผนการนี้ได้ ก็คือ การรู้จักศัตรูที่แท้จริงและการยืนหยัดที่ประชาชาติอิหร่านได้แสดงออกถึงวิธีการเดียวในการพัฒนาก้าวหน้านั้น ก็คือ การยืนหยัดนั่นเอง

ผู้นำการปฏิวัติอิสลามด้วยกับการอวยพรแสดงความยินดีในวันอีดฟิฏร์ได้ชี้ถึงสถานการณ์ต่างๆของโลกอิสลามในวันนี้ ที่มีการเข่นฆ่า ความไม่ปลอดภัย การระเบิดฆ่าตัวตายในภูมิภาคและท่านยังกล่าวอีกว่า หนึ่งในปัญหาที่สำคัญ คือ การรู้จักแหล่งที่มาของความเลวร้ายของปัญหาต่างๆของประชาชาติในวันนี้และรู้จักถึงมือที่ซ่อนเร้นจากการส่งเสริมการก่อการร้าย

อยาตุลลอฮ์คาเมเนอี ยังชี้ถึงการประกาศอย่างผิวเผินของประเทศทั้งหลายในการต่อสู้กับการก่อการร้ายและการมีอำนาจของกลุ่มการก่อการร้ายและการจัดตั้งกลุ่มก่อการร้ายที่อุปโลกน์ขึ้นมา

ท่านผู้นำสูงสุดยังกล่าวอีกว่า ในทางตรงกันข้ามกับการอ้างถึงการมีอำนาจอย่างเปิดเผย ขณะเดียวกันกับที่พวกเขานั้นได้ให้การสนับสนุนการปฏิบัติการในการก่อการร้ายต่างๆ

ผู้นำการปฏิวัติยังแสดงให้เห็นถึงการเข้าร่วมของทูตอเมริกาในวันแรกๆของประเด็นซีเรียและเปลี่ยนจากข้อพิพาททางการเมืองเป็นสงครามภายในประเทศโดยท่านกล่าวเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงจากข้อพิพาทกันทางการเมืองเป็นสงครามที่มีการเข่นฆ่าพี่น้องด้วยกัน หลังจากนั้นก็ให้การสนับสนุนทางการเงินและอาวุธยุทโธปกรณ์ด้วยกับรายได้จากการค้าน้ำมันเถื่อน อีกทั้งยังส่งคนจากสถานที่ต่างในภูมิภาคเข้ามายังซีเรียและอิรัก อีกทั้งการสร้างความไม่ปลอดภัยและสร้างปัญหาต่างๆในภูมิภาควันนี้ด้วย

ผู้นำการปฏิวัติอิสลามยังชี้ถึงการตอกย้ำถึงความเป็นศัตรูของอเมริกากับอิหร่านที่ได้รับประสบการณ์มากว่า 37 ปีที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า อเมริกาได้ประกาศความเป็นศัตรูกับอิมามโคมัยนี ผู้สูงส่งและการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ของท่าน นับตั้งแต่การเริ่มต้นในการปฏิวัติของท่าน ซึ่งความเป็นศัตรูนี้ยังคงต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ทว่าด้วยกับการตื่นตัวของประชาชาตินี้ และความเฉลียวฉลาดของรัฐพร้อมทั้งการเตรียมพร้อมของบรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย แผนการณ์ร้ายของอเมริกาจึงยังไม่บังเกิดขึ้น

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามเน้นว่า ประชาชาติจำต้องมีความต้องการในการรู้จักศัตรูและแผนการณ์อันแยบยลของพวกมัน และท่านกล่าวเสริมอีกว่า ตัวอย่างที่ชัดเจนของข้อพิพาททางการเมืองถูกเปลี่ยนให้เป็นสงครามภายในประเทศคือ เหตุการณ์ที่เราได้เห็นกันในประเทศบะฮ์เรน

ท่านยังเน้นอีกว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านไม่เคยเข้าไปแทรกแซงและจะไม่เข้าแทรกแซงในปัญหาต่างๆของบะฮ์เรนเป็นอันขาด แต่ถ้าหากว่ารัฐบาลของประเทศนี้มีสติปัญญาทางการเมืองเพียงพอ จะไม่ทำให้ข้อพิพาททางการเมืองเปลี่ยนเป็นสงครามภายในประเทศได้ และจะไม่ต้องไม่ให้ประชาชนมีการห้ำหั่นกันเอง

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามถือว่า ปัจจัยหลักของแผนการณ์และการสร้างสถานการณ์ที่มีแกนนำอย่างอเมริกานั้น คือ การทำให้ปัญหาของปาเลสไตน์ถูกลืมและท่านยังกล่าวว่า พวกเขามีความต้องการที่จะปฏิเสธการมีอยู่ของภูมิศาสตร์หนึ่งและประชาชาติหนึ่ง ในขณะเดียวที่ปาเลสไตน์นั้นมีประวัติศาสตร์หลายพันปีมาแล้วและประชาชนชาวปาเลสไตน์ก็เคยเป็นเจ้าของผืนแผ่นดินหนึ่ง ซึ่งเป็นความจริงที่มิอาจปฏิเสธได้

อยาตุลลอฮ์คาเมเนอีเน้นว่า ขบวนการไซออนิสต์สากลได้บีบบังคับประชาชนที่ถูกกดขี่ในการปิดกั้นประชาชนปาเลสไตน์ ซึ่งในการนี้จะได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม

ท่านผู้นำยังกล่าวเสริมว่า ปัญหาเลสไตน์นั้นถือว่า เป็นปัญหาใหญ่ของโลกอิสลาม ไม่มีประเทศใดในอิสลาม แม้แต่ประเทศที่มิใช่อิสลาม ด้วยกับความเป็นมนุษย์จะไม่ลืมเรื่องนี้เป็นอันขาด

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามยังชี้ถึงสถานการณ์ของเยเมน การทิ้งระเบิดบ้านเรือนประชาชนผู้บริสุทธิ์,โรงพยาบาล,มัสยิด ,ตึกอาคาร โดยท่านเน้นว่า ผู้ละเมิดจะต้องปลดวางจากการละเมิดสิทธิในทันที และโลกอิสลาม จะต้องเตือนสติแก่ผู้ละเมิดที่สร้างความหวาดกลัวให้เกิดกับประชาชนชาวเยเมน เช่นกันด้วย

ท่านอยาตุลลอฮ์คาเมเนอียังชี้ถึงการยืนหยัดของประชาชาติอิหร่าน โดยกล่าวว่า การพัฒนาการในด้านต่างๆของอิหร่านแห่งอิสลาม คือ ผลของการยืนหยัด และถ้าหากว่าประชาชาติอิหร่านได้ยอมรับการมีอำนาจทั้งหลายแล้วไซร้ จะไม่เห็นถึงความก้าวหน้าและพัฒนาการของอิหร่านในวันนี้อย่างแน่นอน

ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า การยืนหยัด และการสร้างความแข็งแกร่งภายในและความมุ่งมั่นและเจตนาแห่งชาติ รวมถึงการมีความสัมพันธ์กับพระผู้เป็นเจ้า คือองค์ประกอบหลักในการพัฒนาการและก้าวหน้าอย่างแท้จริง และท่านยังกล่าวอีกว่า ถ้าหากว่าประชาชาติใดก็ตามด้วยกับการมีอีหม่าน (ความศรัทธา)ที่มั่นคงและมอบหมายการงานแด่พระองค์ อีกทั้งไม่มีความหวาดกลัวต่อสิ่งที่มิใช่พระเจ้า แน่นอนที่สุดเขานั้นจะบรรลุสู่เป้าหมายที่สูงส่ง

ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ฮุจญตุลอิสลาม ฮะซัน โรฮานี ประธานาธิบดีได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในวันอีดซะอีดฟิฏร์ ซึ่งเขาถือว่า การก่อการร้าย ,ความไม่สงบปลอดภัยและการอพยพ คือปัญหาที่สำคัญในปัจจุบันวันนี้และเขาเน้นถึงความจำเป็นในการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรที่แท้จริงเพื่อการปราบปรามกับการก่อการร้ายแทนพันธมิตรจอมปลอมที่หลอกลวงโลก

เขาเสริมอีกว่า สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน เหมือนดั่งที่ผ่านมาในการแก้ไขปัญหาของโลกอิสลามจะไม่นิ่งเฉยและจะปกป้องประชาชาติอิสลาม

โรฮานียังได้ชี้ถึงเอกสารต่างๆทางสิทธิกฏหมายว่า รัฐบาลจะร่วมมือกับสภาต่างๆด้วยกับการสนับสนุนจากประชาชนและท่านผู้นำสูงสุด จะดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ในทันทีอย่างโปร่งใส อีกทั้งจะดำเนินแก้ไขข้อกฏหมาย ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก และรัฐบาลจะยื่นเป็นมติให้รัฐสภามีการพิจารณาเป็นวาระต่อไป

 

700 /