สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานตุลาการสูงสุดและบรรดาเจ้าหน้าที่ตุลาการ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

จะต้องมีการดำเนินการกับผู้ที่ประสงค์ร้ายอย่างเด็ดขาด

“จะต้องมีการดำเนินการกับผู้ที่ประสงค์ร้ายอย่างเด็ดขาด ความนอบน้อม ความรักและการมีความเข้าใจกับประชาชนอย่างถูกต้อง”

เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา ประธานตุลาการสูงสุดและบรรดาเจ้าหน้าที่ตุลาการได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำได้ชี้ถึงหน้าที่อันหนักหน่วงและการใช้อำนาจของตุลาการ โดยเน้นว่า “ตุลาการนั้น จะต้องเป็นสัญลักษณ์แห่งความยุติธรรม เป็นที่พึ่งพาที่เชื่อมั่นได้และเป็นที่พักพิงทางความสงบให้กับประชาชน ทั้งในด้านสิทธิทางปัจเจกบุคคลและทางสาธารณะ อีกทั้งยังเป็นที่ไว้ใจจากความคิดเห็นของสาธารณชน ซึ่งจะมีการเผยแผ่อย่างถูกต้อง หมายถึง ผลสะท้อนอย่างถูกต้องและส่งผลที่ตรงกับความเป็นจริง ตลอดจนการดำเนินการ การขับเคลื่อน และการเปลี่ยนแปลงของหน่วยงานตุลาการอย่างต่อเนื่อง”

ในช่วงแรกของการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ท่านได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องในวันและสัปดาห์แห่งตุลาการ และยังได้กล่าวขอบคุณต่อการรายงานที่สมบูรณ์แบบของท่านอยาตุลลอฮ์ ออโมลี ลารีญานีที่เกี่ยวกับผลงานการดำเนินการของตุลาการสุงสุด โดยถือว่า การตั้งชื่อสัปดาห์แห่งตุลาการนั้นตรงกับปีแห่งการเป็นชะฮีดของท่านอยาตุลลอฮ์เบเฮชตี ก็เหมือนกับวโรกาสอื่นๆของประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเป็นชะฮาดัตและการเสียสละชีวิตในแนวทางของพระผู้เป็นเจ้า และท่านผู้นำยังกล่าวอีกว่า “ประเด็นนี้ นั้นสูงส่งกว่าหน้าที่และความคาดหวังจากตุลาการสูงสุดในฐานะที่เป็นองค์กรหนึ่ง การต่อสู้ในทุกภาคส่วน การเสียสละ การไม่ยึดถือตัวเพื่อนำไปสู่เป้าที่สูงส่ง นั่นคือ แบบฉบับของหน่วยงานนี้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ด้วยกับการขอบคุณยังประธานตุลาการสูงสุดและบรรดาเจ้าหน้าที่ตุลาการ โดยถือว่า หน่วยงานนี้มีหน้าที่ที่สำคัญในการใช้อำนาจและความรู้สึก โดยกล่าวเสริมว่า “หากว่าหน่วยงานตุลาการได้ปฏิบัติหน้าที่ของตน เช่น การตัดสินในคดีความ การขจัดปัญหาความขัดแย้งและการลงโทษผู้ที่กระทำความผิดตามกฏหมาย ก็เป็นการกระทำที่ดี และประชาชนก็มีความพอใจ และถ้าหากว่าหน่วยงานนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างที่มีข้อบกพร่องและเป็นการที่ไม่ดี ประชาชนก็จะรู้สึกไม่พอใจ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การดำเนินการอย่างถูกต้องและเด็ดขาดในหน้าที่ของหน่วยงานตุลาการนั้นจะส่งผลอย่างมากมายในการดำเนินชีวิตของประชาชน โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ดั่งที่ได้เน้นย้ำไปหลายครั้งมาแล้วว่า หน่วยงานตุลาการจะต้องเป็นสัญลักษณ์ของความยุติธรรมและเป็นที่พักพิงให้กับประชาชาติและประชาชนจะต้องมีความรู้สึกไว้ใจ ไม่ว่าในสถานที่ใดที่มีการละเมิดข้อกฏหมายหรือฝ่าฝืนกฏหมายก็จะต้องถูกนำมาลงโทษตามกฏหมาย และการที่ประชาชนได้พึ่งพายังหน่วยงานตุลาการนั้น จะต้องทำให้พวกเขาสามารถเรียกร้องสิทธิของพวกเขาได้อย่างสะดวกสบาย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หน่วยงานตุลาการได้เข้ามาในประเด็นต่างๆที่เกี่ยวกับสิทธิโดยทั่วไป และปัญหาการดำรงชีพประจำวันของประชาชน คือ หน้าที่สำคัญของหน่วยงานนี้ โดยท่านกล่าวว่า “จะต้องทำให้ประชาชนได้รับความไว้ใจในกรณีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิโดยทั่วไปของพวกเขา หากว่าเมื่อพวกเขาต้องพึ่งพายังหน่วยงานตุลาการ พวกเขาจะต้องได้รับสิทธิอันชอบธรรมของพวกเขา”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงของหน่วยงานตุลาการ จะต้องมีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน โดยเน้นว่า “การเปลี่ยนแปลง จะต้องไม่เป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งจะต้องมีความเร่งด่วนและการรีบเร่งตามความเหมาะสม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงประเด็นสำคัญจากความคิดเห็นของสาธารณชนและความจำเป็นในการสร้างความยึดมั่นต่อประชาชนและความอ่อนข้อของหน่วยงานตุลาการในภาคส่วนนี้ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “เราจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติในการเผชิญหน้ากับผู้ที่ประสงค์ร้ายและการสมรู้ร่วมคิด อีกทั้งการกล่าวหาอย่างแน่วแน่ ในขณะที่จะต้องมีการปฏิบัติกับประชาชนด้วยความนอบน้อมและความรักโดยที่มีความเข้าใจต่อพวกเขาทั้งหลาย เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นจากความคิดเห็นของสาธารณชน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การยึดถือความคิดเห็นของสาธารณชนและการมีเชื่อมั่น คือ การกระทำหลักของทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานตุลาการ และผู้ที่กำหนดข้อกฏหมาย และท่านยังกล่าวอีกว่า “การสร้างความเชื่อมั่นนั้น จะมีความต้องการในสองรากฐานหลัก คือ หนึ่ง การกระทำทางการปฏิบัติและการเผยแผ่”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวเสริมถึงกรณีความจำเป็นในการเผยแผ่อย่างถูกต้อง โดยกล่าวว่า “ในวันนี้ หน่วยงานตุลาการยังได้รับแรงกดดันทางการเผยแผ่และการสื่อสารจากฝ่ายของศัตรูชาวต่างชาติและผู้ที่เพิกเฉยในประเทศ ถึงขนาดที่ว่า ฆาตกรที่เหี้ยมโหดคนหนึ่งที่เขานั้นได้ทำการสังหารเยาวชนผู้ที่รักษาความปลอดภัย และขณะที่เขากำลังจะถูกตัดสินคดีความในอาชญากรรมของเขา ได้กลายเป็นผู้ถูกกดขี่ และหน่วยงานตุลาการที่มีความรักและปกป้องต่อสิทธิของบรรดาผู้ถูกกดขี่ กลับกลายเป็นผู้กดขี่ไปในที่สุด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นว่า “การกระทำในการเผยแผ่ของหน่วยงานตุลาการและการเผชิญหน้ากับการปฏิบัติการเช่นนี้ทางสื่อมวลชนนั้นมีความต้องการทีมงานที่ความเข้มแข็งทางการสื่อและความถูกต้อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงการเผยแผ่และการกระทำในการสื่อสาร จำเป็นที่จะต้องเข้ามาอยู่ในหัวใจของผู้ฟัง ไม่ใช่เป็นเพียงการฟังโดยผ่านหูเท่านั้น โดยกล่าวเสริมว่า “จะต้องมีการปฏิบัติด้วยวิธีการที่ทันสมัยและมีศิลปะที่ถูกต้อ อย่างต่อเนื่อง มีการวางแบบแผนที่หลากหลาย การยอมรับในความชอบธรรมและความจริง อีกทั้งการมีความรู้สึกต่อความคิดเห็นของสาธารณชน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังตั้งข้อสังเกตว่า “วันนี้ในโลกของการโฆษณาชวนเชื่อได้ใช้วิธีการที่สลับซับซ้อน โดยการทำให้สีขาวได้กลายเป็นสีดำ และความเท็จกลับกลายเป็นสัจธรรม แต่ช่างน่าเสียใจยิ่งนักที่ส่วนมากของหน่วยงานของเรานั้นยังไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่าไรกับการกระทำทางสื่ออย่างละเอียดและในประเด็นของการสร้างความเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับสาธารณชน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ต่อไปถึงความจำเป็นในการใช้วิธีการต่างๆที่เหมาะสมในการตอบรับในคำฟ้องร้องของประชาชนในสำนักงานศาล และตุลาการ โดยกล่าวว่า “ในหน่วยงานตุลาการ จะต้องมีผู้พิพากษาที่มีความเพียรพยายาม ซื่อสัตย์ ตัดสินใจแน่วแน่ให้กับประชาชน เพื่อที่จะใช้วิธีการต่อไป และในอีกด้านหนึ่ง จะต้องมีการทำให้ประชาชนได้รู้จักถึงบุคคลที่ละเมิดและทรยศ ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้พิพากษาหรือปัจจัยอื่นก็ตาม”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังเน้นถึงความจำเป็นในการปรับปรุงในหน่วยงานตุลาการอย่างต่อเนื่องโดยกล่าวเสริมว่า “ในคดีความที่สำคัญ จะต้องมีการตัดสินความด้วยความยุติธรรม ซึ่งถือว่าความเป็นจริงนั้นคือ การบริจาคทานที่ดีและเป็นการกระทำที่ดีเลิศยิ่ง และจำเป็นจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสบาม ยังกล่าวในส่วนต่อไปของการปราศรัยถึงการมีบทบาทของหน่วยงานตุลาการในการต่อสู้กับการทุจริตทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง โดยกล่าวเสริมว่า “ในการบริหารจัดการปัญหาหลักของประเทศ กล่าวคือ ปัญหาเศรษฐกิจนั้น หน่วยงานในการบริหารประเทศ คือ ผู้ที่มีบทบาทอันแรก และหน่วยงานของรัฐสภาและตุลาการก็มีบทบาทด้วยเช่นกัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในหน้าที่ของหน่วยงานตุลาการ คือ การสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ โดยกล่าวเสริมว่า “ บรรยากาศในการทำงานและการดำรงชีพจะต้องมีความปลอดภัยและหน่วยงานตุลาการจะต้องมีการดำเนินการกับผู้ที่ก่อความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การต่อสู้กับการทุจริตและผู้ก่อความไม่สงบกับเศรษฐกิจอย่างแน่วแน่และถูกต้อง คือ อีกหน้าที่หนึ่งที่สำคัญของหน่วยงานตุลาการ โดยกล่าวเสริมว่า “จะต้องมีการดำเนินอย่างโปร่งใสและส่งผลในประเด็นดังกล่าวนี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังกล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงจินตนาการโดยตรงและโดยอ้อมเกี่ยวกับความครอบคลุมของการทุจริตในทุกหน่วยงานต่อความคิดเห็นของสาธารณชน โดยกล่าวเสริมว่า “บางหน่วยงานในการบริหารจัดการประเทศ ภาคประชาชน และในบรรยากาศของการทำงานก็มีการทุจริตเกิดขึ้น แต่การทุจริตทั้งหมดในทุกหน่วยงานนั้นไม่เป็นความจริง และก็อย่าได้ทำให้สาธารณชนเกิดความคิดเห็นที่ผิดพลาดเช่นนี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความจำเป็นในการดำเนินการของหน่วยงานตุลาการกับการทุจริตทางด้านเศรษฐกิจ โดยเน้นว่า “เมื่อมีการตัดสินและลงโทษในการทุจริต ก็จะต้องมีความกระจ่างชัด เพื่อที่จะทำให้พวกเขานั้นได้รู้สึกถึงความถูกต้องในการกระทำและการเปลี่ยนจากภัยคุกคามมาเป็นโอกาส”

การร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ คือ อีกคำเตือนหนึ่งถึงเจ้าหน้าที่ตุลาการ

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังรู้สึกพอใจในการดำเนินการของหน่วยงานตุลาการในการเรียกร้องสิทธิให้กับประชาชาติอิหร่านในการเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรูผู้กดขี่ทั้งหลาย และเช่นกัน ในการเผชิญหน้ากับผู้ที่แอบอ้างสิทธิมนุษยชน โดยกล่าวว่า “สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านนั้นเป็นเจ้าหนี้ในประเด็นสิทธิมนุษยชนในการเผชิญหน้ากับอาชญากรผู้ที่แอบอ้างถึงสิทธิมนุษยชน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงภัยพิบัติทางสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯในพื้นที่ต่างๆทั่วโลก และเช่นกัน อาชญากรรมของพวกฝรั่งเศส และอังกฤษในทวีปแอฟริกาและเอเชียอาคเนย์ ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในหลายปีที่ผ่านมา การปฏิบัติของพวกตะวันตกในการสนับสนุนต่อกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย เมียนมาร์และพื้นที่อื่นๆ แสดงให้เห็นถึงความโกหกหลอกลวงหลายครั้งของเหล่าผู้ที่อ้างในการสนับสนุนต่อสิทธิมนุษยชน”

ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ท่านอยาตุลลอฮ์ ออโมลี ลารีญานี ประธานสูงสุดฝ่ายตุลาการได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับการรับใช้และการดำเนินการของหน่วยงานนี้ ทั้งในเรื่องของการตัดสินคดีความ การรับใช้ประชาชนทั่วไป แหล่งจากพลังงานมนุษย์ การเพิ่มในการตรวจสอบต่างๆ สิทธิโดยทั่วไป การดำเนินการของอาชญากรรม การอบรมทางความรู้ในกับสาธารณชน การเสริมสร้างทางศีลธรรมในหมู่นักโทษในเรือนจำ การปรับปรุงและแก้ไขข้อกฏหมาย ปัญหาคดีความนานาชาติ การดำเนินการในการค้นคว้าและวิจัย อีกทั้งการใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง การให้ข้อมูลและการเปลี่ยนแปลงของหน่วยงานตุลาการ

ท่านอยาตุลลอฮ์ ออโมลี ลารีญานี ได้กล่าวถึงปีที่ผ่านมาว่า ได้มีการตัดสินคดีความมามากกว่า 16 ล้านคดี โดยกล่าวว่า “หน่วยงานตุลาการได้มีการขับเคลื่อนในรูปแบบใหม่ในการเรียกร้องสิทธิต่อประชาชน และด้วยกับบางปัญหาที่สำคัญ เช่น การปลดวางอำนาจในการใช้ประโยชน์จากแหล่งธรรมชาติ ปัญหาท้องถนน และความล่าช้าของเที่ยวบินต่างๆ

ประธานตุลาการสูงสุด ยังได้ชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของการตรวจสอบทางฝ่ายตุลาการและเจ้าหน้าที่ตุลาการ โดยกล่าวเสริมว่า “ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในหน่วยงานตุลาการ เมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการ 167 คนได้ถูกดำเนินการและสั่งปลดออกจากตุลาการ และมีอีก465 กรณีที่ได้รับการพิจารณาแล้ว”

ท่านอยาตุลลอฮ์ ออโมลี ลารีญานี ยังเน้นว่า “ได้มีการร่วมมือกับเหล่าผู้บริหารและในระดับเจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการในการแก้ไขปัญหาของประชาชนในปี 96 ที่ผ่านมา”

ประธานตุลาการสูงสุด ยังได้ชี้ถึงการโจมตีต่อต้านหน่วยงานตุลาการ โดยเน้นว่า “ในการทำลาย และการใส่ร้ายป้ายสีต่อบรรดาผู้พิพากษาที่ทรงเกียรติ ซึ่งได้ทำให้เจ้าหน้าที่ตุลาการที่เต็มด้วยกับความพยายามและอุตสาหะ และบรรดาผู้บริหารของหน่วยงานตุลาการได้ใช้ความสามารถทั้งหมดในการปฏิบัติหน้าที่และรับใช้ต่อประชาชน”

 

 

 

 

700 /