สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานตุลาการสูงสุดและคณะเจ้าหน้าที่ตุลาการ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

“ข้อเสนอในการเจรจาของสหรัฐ คือ การหลอกลวง”

ประธานตุลาการสูงสุดและคณะเจ้าหน้าที่ตุลาการ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า ความยุติธรรม นั้นคือ แกนหลักของหน่วยงานตุลาการสูงสุดและท่านยังได้กล่าวแสดงความปลื้มปิติต่อการดำเนินการของประธานตุลาการสูงสุดในการจัดเตรียมแบบแผนที่ดีในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหน่วยงานนี้ โดยถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการดำเนินการตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้อย่างกล้าหาญและการพึ่งพาวิธีการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของแบบแผนนี้ และท่านยังได้กล่าวยกย่องในการยืนหยัดอย่างสง่างามในตลอด 40 ปีของประชาชนในการเผชิญหน้ากับเหล่าผู้ฉ้อฉลโลก โดยกล่าวเสริมว่า “ประชาชาติที่ถูกฉ้อฉลและมีอำนาจของอิหร่าน จะไม่เพิกเฉยต่อเป้าหมายทั้งหลายของตนในเผชิญหน้ากับความกดดันต่างๆ  การใส่ร้ายและการดูถูกเหยียดหยามของรัฐบาลที่ชั่วร้ายที่สุดของโลก นั่นหมายถึง สหรัฐอเมริกา และจะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องบนเส้นทางแห่งการปฏิวัติของท่านอิมาม เพื่อที่จะให้บรรลุถึงเกียรติ ศักดิ์ศรี ความเจริญรุ่งเรืองและความก้าวหน้า รวมทั้งความภาคภูมิใจ”

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามยังได้กล่าวแสดงความยินดีในสัปดาห์แห่งตุลาการและการเทอดเกียรติต่อบุคคลเฉกเช่นท่านชะฮีด อยาตุลลอฮ์ เบเฮชตี ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งหน่วยงานตุลาการในสาธารณรัฐอิสลาม โดยกล่าวว่า “ท่านชะฮีดเบเฮชตี คือ มนุษย์ที่มีความคิด มีแรงจูงใจ มีความมั่นคง มีระเบียบวินัย เป็นผู้ที่ทำงานด้วยความภาคภูมิใจ และด้วยความหมายที่แท้จริงนั้นเป็นหนึ่งในความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความสำคัญของสำนักงานตุลาการนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักก็คือ การดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม โดยกล่าวเสริมว่า “หน่วยงานตุลาการในสาธารณรัฐอิสลาม เหมือนดั่งเป็นต้นกล้าต้นใหม่ที่มีความเจริญเติบโตในแต่ละวัน และได้มีความก้าวหน้าในช่วงเวลาต่างๆซึ่งในช่วงเวลาใหม่ก็จะต้องมีความก้าวหน้าและมีนวัตกรรมใหม่ เมื่อเทียบกับในหลายช่วงที่ผ่านมา”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดของสำนักงานตุลาการในยุคใหม่ คือ การเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในกรอบของหลักการของศาสนาอิสลาม อัลกุรอานและรัฐธรรมนูญ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า "การเปลี่ยนแปลง นั่นหมายถึง การใช้ประโยชน์จากวิธีการที่มีประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้นและการเพิ่มประสิทธิภาพของวิธีการก่อนหน้านี้ และเช่นเดียวกัน การเติมช่องว่างและการขจัดข้อบกพร่องและปัญหาต่างๆที่ผ่านมา”

ผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเกิดการเปลี่ยนแปลงในสำนักงานตุลาการ คือ ความจำเป็นในการวางแบบแผนทั่วไป และการจัดระเบียบแบบแผนและการกำหนดเวลา โดยกล่าวว่า “สำหรับการเกิดขึ้นของการเปลี่ยนแปลงนั้น มีการวางแบบแผนและกำหนดเวลาไว้แล้ว ประมาณ 50 เปอร์เซ็น และอีก 50 เปอร์เซ็นที่เหลืออยู่นั้นเกี่ยวข้องกับในการขับเคลื่อน การดำเนินการและการปฏิบัติ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังรู้สึกมีความหวังในการเกิดการเปลี่ยนแปลงในสำนักงานตุลาการในยุคใหม่ โดยท่านได้เน้นว่า “จะต้องมีการเริ่มต้นจากเอกสารที่เตรียมไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลงโดยปราศจากความล่าช้า”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงหน้าที่อันกว้างขวางของสำนักงานตุลาการในรัฐธรรมนูญและสถานภาพที่สำคัญอย่างมากของหน่วยงานนี้ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การฟื้นฟูสิทธิทั่วไปที่ขยายวงกว้าง รวมถึงเศรษฐกิจ และความมั่นคง จนกระทั่งในแวดวงระหว่างประเทศด้วยเช่นกัน การแพร่กระจายของความยุติธรรมและเสรีภาพตามกฎหมาย การป้องกันการเกิดขึ้นของอาชญากรรม  และการตรวจสอบในการดำเนินการที่ถูกต้องของข้อกฏหมาย นั้น เป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญซึ่งจะต้องมีการดำเนินการตามวิธีการต่างๆที่ใหม่ การมีนวัตกรรมและการใช้ประโยชน์จากผู้ที่มีความสามารถ” 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หนึ่งในภารกิจที่สำคัญของหน่วยงานตุลาการสูงสุด คือ การต่อสู้อย่างจริงจังเพื่อต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นภายในและภายนอกหน่วยงานนี้ โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำว่า “การต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่นภายในสำนักงานตุลาการสูงสุดนั้นเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น เพราะว่า แม้แต่การพบปัจจัยหนึ่งที่บกพร่องในสำนักงานตุลาการสูงสุด สามารถที่จะทำให้ความพยายามของผู้พิพากษาที่มีเกียรติและซื่อสัตย์ รวมทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่สำนักงานตุลาการแห่งนี้นั้นต้องพบกับความด่างพล้อยและเกิดผลกระทบที่ร้ายแรงอีกด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวว่า “การทำความผิดของบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ในการต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่น ที่เขาผู้นั้นเป็นผู้กระทำความผิดนั้นมีความผิดมากหลายเท่าและไม่อาจที่จะให้อภัยได้ ด้วยเหตุนี้เอง ก็จะต้องมีความจริงจังในประเด็นเหล่านี้ด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการใส่ร้ายป้ายสีและการละเมิดต่อสำนักงานตุลาการสูงสุดโดยเฉพาะในพื้นที่เปิดโล่งอย่างสังคมไซเบอร์ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในช่วงประวัติศาสตร์ ท่านอมีรุลมุมินีน อะลี นั่นหมายถึง สัญลักษณ์ของการแสดงความยุติธรรมที่สมบูรณ์ก็ยังถูกกล่าวหาว่าไร้ซึ่งความยุติธรรม ฉะนั้น ด้วยกับการใส่ร้าย ก็อย่าได้ทำให้เกิดผลลบต่อเจตนา ความมุ่งมั่นและการดำเนินการที่ประสิทธิภาพเป็นอันขาด” 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสร้างภาพลักษณ์ของสำนักงานตุลาการสูงสุดในสายตาของสาธารณชน เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยท่านกล่าวเสริมว่า “จะต้องมีความระมัดระวังและความฉลาดหลักแหลมในประเด็นนี้ โดยที่ว่าเหตุการณ์บางอย่างนั้นเป็นไปได้ว่า ในคุณสมบัติที่ดีของสำนักงานตุลาการสูงสุด นั่นหมายถึง การมีเกียรติ การซื่อสัตย์ และความยุติธรรม จะมีการฉายภาพลักษณ์ที่ตรงกันข้ามให้ประชาชนได้เห็น” 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้อธิบายถึงคุณสมบัติที่จำเป็นของหน่วยงานตุลาการในสายตาของสาธารณชน โดยท่านได้เน้นว่า “หน่วยงานตุลาการในสายตาประชาชน จะต้องมีฮิกมัต(วิทยปัญญา)ในการแต่งตั้ง หลักการ คำพูดและการกระทำ และประชาชนจะต้องมองเห็นการกระทำต่างๆของหน่วยงานนี้โดยการพึ่งพายังการกระทำทางวิชาการและการเชี่ยวชาญ”

การรับฟังในทุกขั้นตอนของกระบวนการตุลาการและการมีความอดทนในการรับฟังจากโจทก์และจำเลย รวมถึง  การมีความเด็ดขาดและการมีอำนาจ คือ อีกสองคุณสมบัติที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานตุลาการในสายตาของสาธารณชน” 

 ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การดำเนินการที่ยืดเยื้อในคดีความต่างๆ คือ ผลเสียของการมีอำนาจของสำนักงานตุลาการสูงสุด โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า ขณะที่คดีความหนึ่งที่ใช้เวลาในการตัดสินความถึง 10 ปี แล้วไม่มีผลอะไร ในสายตาของประชาชนแสดงถึงการไร้ความสามารถและความสับสนของหน่วยงานตุลาการในคดีความนี้ ดังนั้น จะต้องมีการตัดสินคดีความอย่างรวดเร็วและการดำเนินการตามหลักการ”

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า พฤติกรรม คำพูด การปฏิบัติและการเผยแพร่ที่ดี คือ พื้นฐานในการแสดงภาพลักษณ์ที่เหมาะสมของสำนักงานตุลาการสูงสุดในสายตาของสาธารณชน โดยกล่าวเสริมว่า “ทุกหน่วยงานต่างๆ รวมทั้ง องค์กรการสื่อสารมวลชน จะต้องให้การช่วยเหลือสำนักงานตุลาการสูงสุด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การมีความละเอียดอ่อนในการแต่งตั้งของสำนักงานตุลาคือ สิ่งที่สำคัญยิ่ง โดยท่านได้อ้างหลักฐานจากคำบัญชาการของทานอมีรุลมุมินีน อะลี ที่มีต่อท่านมาลิก อัชตัร ในการคัดเลือกบุคคลที่ดีที่สุดในการตัดสินคดีความ โดยกล่าวเสริมว่า “บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้บริหารหน่วยงานตุลาการ จะต้องศึกษาในคำบัญชาการแห่งประวัติศาสตร์นี้ และมีการปฏิบัติในการแต่งตั้ง การคัดเลือกบุคคลที่คุณลักษณะตามที่ท่านอมีรุลมุมินีนได้เน้นย้ำไว้”

การให้ความสนใจต่อจริยธรรมและวิธีการที่ภายนอกนั้นแข็งกระด้างต่อกระบวนการตุลาการ จนเป็นเหตุให้การกระทำของหน่วยงานนี้มีความอ่อนโยน คือ อีกข้อเสนอหนึ่งของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติที่มีต่อเจ้าหน้าที่ตุลาการ 

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “พวกท่านจะต้องปฏิบัติด้วยกับความอดทนอย่างมากและการประพฤติที่ดีต่อบรรดาผู้ที่ติดต่อกับพวกท่านและจงให้ความสำคัญด้วยกับการให้อภัยในรูปแบบของอนุญาโตลาการและการใช้ประโยชน์ที่ถูกต้องจากสภาการแก้ไขความขัดแย้งต่างๆ”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงปัญหาต่างๆรายวัน โดยกล่าวเสริมว่า “เมื่อหลายวันก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศอ้างรายงานจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญโดยยอมรับว่าไม่สามารถจะทำอะไรกับประชาชาติอิหร่านได้ด้วยกับความกดดัน การข่มขู่คุกคามและการคว่ำบาตร แต่ความจริงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อเดือนที่ผ่านมา แต่ทว่าเป็นผลมาจากตลอด 40 ปีแห่งการยืนหยัด เกียรติ ศักดิ์ศรี ความยิ่งใหญ่และการมีอำนาจของประชาชาติอิหร่านที่แสดงให้เห็นต่างหาก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามเป็นจุดทำให้ประชาชาติออกจากความอัปยศอดสู โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา การมีอัตลักษณ์แห่งอิหร่านด้วยกับคุณลักษณะของความเป็นอิสลาม เป็นเหตุให้ความกดดันต่างๆของเหล่าผู้ฉ้อฉลโลกไม่มีผลต่อการขับเคลื่อนทั้งสิ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องในการเดินขบวนวัน 22 บะห์มัน และวันอัลกุดส์สากล อีกทั้งการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งต่างๆ แสดงถึงลักษณะของการมีเจตนา ความมุ่งมั่นที่ดีของประชาชาติ โดยกล่าวเสริมว่า “ในช่วงท้ายของปีนี้ เรามีการเลือกตั้งซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่า ด้วยกับการมีข้อสงสัยจากบางคน ประชาชนจะเข้าร่วมในการเลือกตั้งอย่างมากและแสดงถึงความยิ่งใหญ่ให้เห็น”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเตือนถึงการกล่าวหา การดูถูกเหยียดหยาดและการใส่ร้ายของระบอบการปกครองที่เลวร้ายที่สุดในโลก นั่นหมายถึง สหรัฐที่มีต่อประชาติอิหร่าน โดยกล่าวเสริมว่า “ความน่ารังเกียจและความเลวร้ายที่สุดของรัฐบาลของในโลกที่เป็นปัจจัยแห่งสงคราม การสร้างความแตกแยก การปล้นสะดมภ์ การยึดครองประเทศและประชาชาติต่างๆ โดยกล่าวหาว่าร้ายประชาชาติอิหร่านในทุกๆวัน แต่ประชาชนชาวอิหร่านจะไม่ยอมนิ่งเฉยและล่าถอยต่อการกระทำที่เลวร้ายของสหรัฐเป็นอันขาด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การคว่ำบาตรของสหรัฐนั้นเป็นความฉ้อฉลที่เปิดเผยที่มีต่อประชาชาติอิหร่าน โดยท่านได้เน้นว่า “ประชาชาติที่ถูกฉ้อฉล แต่ในขณะเดียวกันนั้นกลับมีอำนาจของอิหร่าน ด้วยกับพระมหากรุณาธิคุณของพระผู้เป็นเจ้า ที่ประชาชาตินี้ได้ยืนหยัดเหมือนดั่งภูผาอย่างแข็งแกร่งและได้มีการขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง และจะไปถึงยังเป้าหมายทั้งหมดที่ได้คาดหวัง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การมีชัยชนะของสาธารณรัฐอิสลามเหนือแผนการร้ายทั้งหมด รวมถึง สงคราม การแทรกแซง การก่อการร้าย และการปฏิบัติการณ์ที่เลวร้ายของสหรัฐ แสดงถึงความชัดเจนในการสนับสนุนของพระเจ้าต่อประชาชาตินี้ โดยกล่าวเสริมว่า “ส่วนหลักของการมีอำนาจของประชาชาตินั้นเกี่ยวข้องกับการมีความศรัทธาที่ลึกซึ้งต่อการสนับสนุนของพระผู้เป็นเจ้า”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ข้อเสนอในการเจรจาของสหรัฐ นั้นคือ การหลอกลวง โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ศัตรู เมื่อเขานั้นไม่สามารถไปถึงเป้าหมายของตนด้วยกับความกดดัน จึงมีข้อเสนอในการเจรจาให้ประชาชาติอิหร่าน ด้วยกับความคิดในความเรียบง่ายของประชาชาตินี้ และเขาบอกว่า ประชาชาติอิหร่านนั้น จะต้องมีความก้าวหน้า  แต่ทว่า ประชาชาติจะได้รับความก้าวหน้าโดยที่ไม่มีคุณ (ทรัมป์) และด้วยกับเงื่อนไขที่ว่าคุณนั้นจะไม่เข้ามาใกล้เป็นอันขาด”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้กล่าวถึงความเป็นทุกอย่างของสหรัฐและอังกฤษในยุคของเผด็จการปาห์เลวี  โดยกล่าวว่า “คุณ คือ ปัจจัยที่ทำให้ประชาชาติอิหร่านต้องล้าหลังในยุคมืด แต่ในปัจจุบันนี้ การปรากฏของคุณ นอกจากความล้าหลังและการยับยั้งความก้าวหน้าของอิหร่านแล้ว ไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เป้าหมายหลักของข้อเสนอในการเจรจา คือ การปลดอาวุธและการปฏิเสธปัจจัยในการมีอำนาจของอิหร่าน โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “พวกสหรัญได้ออกมาด้วยกับความหวาดกลัวในปัจจัยต่างๆในการมีอำนาจของประชาชาติอิหร่าน ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงต้องการด้วยกับการเจรจา ที่จะทำให้อิหร่านไม่มีอาวุธและปัจจัยในการมีอำนาจ โดยที่จะลงโทษอย่างใดก็ได้ต่อประชาชาติอิหร่าน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “หากว่าท่านนั้นยอมรับคำพูดของเขาในการเจรจา เขาก็จะรังแกต่อพวกท่าน และหากว่าท่านนั้นไม่ยอมรับ พวกเขาก็จะใช้พื้นที่การสร้างกระแสทางเมือง การโฆษณาชวนเชื่อ และการสร้างความกดดันต่อไปอย่างต่อเนื่อง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ถึงการฉวยโอกาสของพวกสหรัฐในความร้สึกเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยกล่าวว่า พวกคุณนั้นได้สังหารนักเดินทาง ผู้บริสุทธิ์ ประมาณ 300 คน พวกคุณได้ช่วยเหลือพวกซาอุดี้ในการก่ออาชญากรรมในเยเมน ที่เวลานั้นมาพูดถึงสิทธิมนุษยชน”

ในช่วงท้ายของคำปราศรัย ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้เน้นว่า “ประชาชาติอิหร่านยังคงดำเนินการตามแนวทางของอิสลาม การปฏิวัติ และท่านอิมามต่อไป โดยที่จะทำให้บรรลุสู่เป้าหมายอันทรงคุณค่า หมายถึง การเข้าถึงยังเกียรติยศ ความรุ่งเรือง ความก้าวหน้าทางวิชาการ ความสงบและความมั่นคงทางสังคม”

ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ราอีซี ประธานตุลาการสูงสุด ได้กล่าวรายงานถึงการเทอดเกียรติและความทรงจำของท่านชะฮีดเบเฮชตี โดยการยกฐานะภาพของสำนักงานตุลาการสูงสุดให้สูงยิ่งขึ้นด้วยกับความพยายามต่างๆในหลายช่วงที่ผ่านมา โดยตั้งข้อสังเกตว่า “การเปลี่ยนแปลงในหน่วยงานสำนักงานตุลาการสูงสุดตามข้อเรียกร้องของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามที่มีต่อประชาชนทั้งหมดและเจ้าหน้าที่ตุลาการถือว่าเป็นความจำเป็น”

ประธานตุลาการสูงสุด ยังได้ชี้ถึงการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานตุลาการและเจ้าหน้าที่ตุลาการในการเปลี่ยนแปลงตามกรอบเวลาที่กำหนดในหน่วยงานนี้ โดยกล่าวเสริมว่า “เรานั้นต้องการที่จะลดโทษทางอาญา การลดกระบวนการในคดีความ การปรับปรุงระบบการพิพากษาและการขจัดอุปสรรคในกระบวนการพิพากษาและการพิจารณาคดีความ”

ประธานตุลาการสูงสุด ถือว่า การมีความหวังในทุกระดับของสังคม เป็นจำเป็นของการเปลี่ยนแปลง โดยกล่าวเสริมว่า “เราพยายามที่จะทำให้หน่วยงานตุลาการนั้นเป็นที่พึ่งพาของประชาชน”

ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ราอีซี กล่าวว่า “สำนักงานตุลาการสูงสุดมีหน้าที่ในการดูแลต่อการดำเนินการตามกฎหมายอย่างถูกต้อง และการดูแลถึงการดำเนินการตามหน้าที่ๆได้รับมอบหมายอย่างดี และหน่วยงานนี้ จะดำเนินการในประเด็นสิทธิทั่วไปในฐานะที่เป็นข้อเรียกร้องอย่างจริงจัง”

ประธานตุลาการสูงสุด ได้กล่าวถึงการปฏิบัติการณ์ส่วนต่างๆในการต่อสู้กับการทุจริตคอรัปชั่นโดยการทุจริตทางเศรษฐกิจ ในกรอบของก้าวที่สองแห่งการปฏิวัติอิสลาม โดยตั้งข้อสังเกตว่า “เราถือว่าเป็นหน้าที่ของเราที่จะให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานและภาคส่วนในการบริหารและด้วยกับการออกกฏหมายที่ยุติธรรม และเราจะจัดการกับเหล่าผู้ที่ละเมิดข้อกฏหมาย สิทธิของประชาชนและทรัพย์สมบัติของชาติ”

 

 

700 /