สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามส่งสาส์นเนื่องในการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับนมาซประจำปี

ด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงกรุณา ปราณียิ่งเสมอ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้ส่งสาส์นเนื่องในการจัดประชุมสัมมนาเกี่ยวกับนมาซประจำปีแห่งชาติ ครั้งที่ 29 โดยท่านผู้นำถือว่า การจัดประชุมสัมมนานี้ ได้มีขึ้นหลังจากสองปีที่ผ่านมา เป็นบ่อเกิดแห่งความปิติยินดีและเป็นบะรอกัต(เกียรติ)อย่างยิ่งโดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “ด้วยการดำรงการนมาซ จะทำให้เกิดความแข็งแกร่งในการส่งเสริมความผูกพันธ์ที่สำคัญในสังคมที่มีความสุขและความเจริญรุ่งเรือง เช่น การมิตรภาพ การให้อภัย ความเมตตา การเอาใจใส่ต่อกันและกัน ความเห็นอกเห็นใจ การช่วยเหลือ ความหวังดี และอื่นๆ”

 

โดยใจความของสาส์นของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

ด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงกรุณา ปราณียิ่งเสมอ

และการสรรเสริญทั้งมวล พึงมีแด่พระผู้อภิบาลแห่งสากลจักวาล ขอความสันติและความจำเริญจากพระผู้เป็นเจ้า พึงมีแด่ศาสดามุฮัมมัดและวงศ์วานผู้บริสุทธิ์ของท่าน

การจัดประชุมอันเป็นสิริมงคลนี้ ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ล่าช้าไปถึงสองปี ถือเป็นบ่อเกิดแห่งความปิติยินดีและหากพระเจ้าทรงประสงค์ ก็จะเป็นบะรอกัต(เกียรติ) อย่างยิ่ง 

ทุกๆความพยายามทางปัญญาและการปฏิบัติ แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการนมาซและการรำลึกถึงข้อบังคับอันทรงเกียรตินี้ จะเป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจของผู้คนพบกับแสงสว่างและทำให้ชีวิตของพวกเขานั้นมีความอบอุ่นยิ่งขึ้น

การระลึกถึงพระเจ้า ซึ่งเห็นได้ในการนมาซ ถือเป็นการสำแดงที่สมบูรณ์แบบที่สุด การปลดปล่อยหัวใจและจิตวิญญาณ และการทำให้สังคมดีขึ้น การเชื่อมความสัมพันธ์ที่สำคัญในสังคมที่มีความสุขและประสบความสำเร็จ เช่น การมีมิตรภาพ การให้อภัย ความเมตตา การเอาใจใส่ต่อกันและกัน ความเห็นอกเห็นใจ การช่วยเหลือ และอื่นๆ จะเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้วยการดำรงการนมาซทั้งสิ้น การจัดแถวของการนมาซ เป็นการจัดแถวที่ทำให้เกิดกิจกรรมทางสังคมที่เชื่อมโยงต่อกัน มัสยิด ถือเป็นศูนย์กลางที่อบอุ่นและน่าหลงใหล ซึ่งช่วยส่งเสริมความร่วมมือของศูนย์กลางต่างๆในเวทีทางสังคม ในขณะที่การนมาซ เป็นการแสดงออกถึงการดำรงอยู่ของพระเจ้า ซึ่งได้ทำให้เวทีด้านต่างๆของการดำเนินชีวิต มีความสว่างไสว ทั้งยังทำให้โลกนี้และปรโลกสำหรับปัจเจกบุคคลและสังคมได้รับการปรับปรุงอีกด้วย

บุคคลผู้ที่ปฏิบัตินมาซ  -ไม่ว่าผู้ใดและสถานที่ใดก็ตาม – จะได้รับประโยชน์จากการนมาซ ตามข้อกำหนดของขีดความสามารถของเขา แต่ในขณะเดียวกัน เยาวชนคนหนุ่มสาวก็ได้ก้าวนำหน้าทุกๆคน ซึ่งพวกเขาได้รับประโยชน์อย่างมากมายจากการปฏิบัตินมาซของพวกเขา ที่เต็มไปด้วยการให้ความสนใจและความอ่อนน้อมถ่อมตน  ขณะที่หัวใจของเยาวชนและยุวชนได้เตรียมความพร้อมที่มากกว่า เพื่อบรรลุสู่ความสำเร็จ จากการเรียกร้องสู่การนมาซ ด้วยการเรียกร้องให้เร่งรีบสู่การนมาซ

บิดาและมารดา ครูบาอาจารย์ บรรดาผู้ให้คำแนะนำและผู้ชี้นำแนวทาง ควรที่จะระลึกถึงความจริงนี้ในความสัมพันธ์ระหว่างนมาซกับเยาวชน และการตระหนักอย่างยิ่งถึงภาระหน้าที่ ซึ่งถูกวางไว้บนบ่าของพวกเขา

โรงเรียน มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มหาวิทยาลัยฟัรฮังกียอน องค์การวิทยุและโทรทัศน์ และสถาบันต่างๆทางด้านวัฒนธรรมอื่นๆ ถือว่า เป็นผู้ที่ตอบสนองต่อคำกล่าวที่ว่า “พวกท่านทั้งหลาย จงดำรงไว้ซึ่งการนมาซ”

ท้ายที่สุดนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง โปรดประทานความสำเร็จให้กับทุกคนด้วยเถิด

ซัยยิด อาลี คาเมเนอี

5 บะฮ์มัน 1401 ตรงกับ 25 มกราคม 2023

 

700 /