สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

สาส์นยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์ ฮิลฮะรอม

ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ส่งสาส์นยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์ ฮิลฮะรอม


ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ส่ง สาส์นฮัจญ์ ฮ.ศ. 1435   ยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ มหานครมักกะฮ์

  เอกภาพของมุสลิม ปัญหาปาเลสไตน์และการมองอย่างชาญฉลาดถึงความแตกต่างระหว่างอิสลามอันบริสุทธิ์ของท่านศาสดามุฮัมมัดกับอิสลามอเมริกานั้น คือสามความจำเป็นหลักของโลกอิสลาม /  เป้าหมายของมหาอำนาจในการสร้างกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรี เพื่อสร้างชายขอบที่มีความปลอดภัยแก่ยิวไซออนิสต์ / บรรดานักต่อสู้ของกลุ่มญิฮาด และกลุ่มฮามาสจำต้องเพิ่มความพยายาม ความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริง

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้ส่งสาส์นยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ บัยตุลลอฮ์ ฮิลฮะรอม    ซึ่งท่านผู้นำสูงสุด ถือว่าการให้ความสนใจต่อปัญหาต่างๆของโลกอิสลาม การมีโลกทัศน์ที่ลุ่มลึกและครอบคลุมยังประเด็นสำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับประชาชาติมุสลิมนั้น เป็นภาระหน้าที่และมารยาทของผู้แสวงบุญ ที่มีความสำคัญในลำดับต้นๆ และท่านได้ย้ำว่า   เอกภาพของชาวมุสลิม ปัญหาปาเลสไตน์และการมองอย่างเข้าใจและชาญฉลาดถึงความแตกต่างระหว่างอิสลามอันบริสุทธิ์ของท่านศาสดามุฮัมมัดกับอิสลามอเมริกานั้น คือสามความจำเป็นหลักของโลกอิสลาม ที่ประชาชาติมุสลิมจะต้องปฏิบัติภารกิจและหน้าที่ในวันนี้ของตนที่มีต่อประเด็นเหล่านี้ ด้วยบะซีเราะฮ์ (รู้แจ้ง)และความเข้าใจที่ลึกซึ้ง

เนื้อความของสาส์นฉบับนี้ ถูกอัญเชิญอ่านโดย ฮุจญะตุลอิสลาม วัลมุสลีมีน กอฎี อัสฆ็อร ตัวแทนของท่านวะลียุลฟะกีฮ์และอะมีรุลฮัจญ์ของผู้แสวงบุญชาวอิหร่าน ในเช้าวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2014 ในพิธีประกาศความเป็นปฏิปักษ์ต่อบรรดาผู้ตั้งภาคี (อัลบะรออะฮ์ มินัลมุชริกีน) ณ. ท้องทะเลทรายแห่งทุ่งอารอฟะฮ์ ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
 
بسم‏ اللَّه‏ الرّحمن الرّحيم‏      ‏ 
و الحمدللَّه ربّ العالمين و صلّى اللَّه على محمّد و آله الطّاهرين       
 
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตาและปรานียิ่งเสมอ
มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิ์แด่พระผู้อภิบาลแห่งสากลจักวาล และขอการประสิทธ์ประสาทพรและความสันติพึงมีแด่ผู้เป็นนายแห่งบรรดาศาสดาและศาสนทูตทั้งหลาย ตลอดจนบรรดาวงศ์วานผู้บริสุทธิ์ของท่าน (อ)  

ขอความสันติสุขและคำวิงวอนขอพรอันเกิดจากความปรารถนาดีและการเคารพให้เกียรติอย่างสุดซึ้งพึงมีแด่ท่านผู้ประสบความสำเร็จทั้งหลาย ที่ได้ตอบรับเสียงเรียกร้องแห่งพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และได้รีบรุดมาสู่การเป็นอาคันตุกะ ณ บ้านแห่งพระผู้เป็นเจ้า 

คำพูดแรกก็คือว่า ท่านทั้งหลายจงตระหนักถึงคุณค่าของเนีอ์มัต ความโปรดปราน อันยิ่งใหญ่นี้  และจงใคร่ครวญในมิติต่างๆ ทั้งในด้านปัจเจกบุคคล ด้านสังคม ด้านจิตวิญญาณและด้านนานาชาติของหน้าที่ภาคบังคับอันนี้ที่หาเทียบได้  และจงอุตสาห์พยายามเพื่อให้เข้าใกล้ยังเป้าหมายต่างๆเหล่านี้ และจงวิงวอนขอความช่วยเหลือเพื่อปฏิบัติภารกิจนี้จาก ผู้ทรงเป็นเจ้าภาพ (พระผู้เป็นเจ้า) ผู้ทรงเมตตาและ ผู้ทรงเดชานุภาพยิ่ง 

ข้าพเจ้าขอร่วมใจกับคำวิงวอนขอของท่านทั้งหลาย ที่จะวิงวอนขอต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอภัยโทษและทรงกรุณายิ่ง ที่พระองค์จะทรงประทานเนีอ์มัต ความโปรดปราน ของพระองค์อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แก่พวกท่านทั้งหลาย และเนื่องจากพระองค์ได้ทรงประทานเตาฟีก ในการเดินทางสู่พิธีฮัจญ์แล้ว ดังนั้นขอพระองค์ทรงประทานความสำเร็จในการประกอบพิธีฮัจญ์ที่สมบูรณ์ด้วยเถิด  และจากนั้นด้วยการตอบรับจากความกรุณาของพระองค์ โปรดทำให้พวกท่านได้กลับสู่บ้านเมืองของตนด้วยมือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสิริมงคล และด้วยสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์ด้วยเถิด อินชาอัลลอฮ์ 
เนื่องในโอกาสอันดีงามของพิธีกรรมที่เปี่ยมไปด้วยสารัตถะที่สำคัญและหาเปรียบได้นี้ นอกเหนือจากการชำระความสะอาดและการฟื้นฟูซ่อมแซมด้านในของจิตวิญญาณ ซึ่งเป็นผลสัมฤทธิ์สูงส่งที่สุดและสำคัญที่สุดของการบำเพ็ญฮัจญ์แล้วนั้น การให้ความสำคัญต่อประเด็นปัญหาต่างๆ ของโลกอิสลาม และการมีโลกทัศน์ที่ลุ่มลึกครอบคลุมไปยังประเด็นต่างๆ ที่สำคัญที่สุด และมีความจำเป็นก่อนสิ่งอื่นใดมากที่สุดที่เกี่ยวข้องกับประชาชาติอิสลามนั้น  ถือเป็นหัวใจหลักของพันธะกิจและมารยาททั้งหลายของผู้แสวงบุญ 

วันนี้ส่วนหนึ่งจากสิ่งที่สำคัญที่สุดและมีลำดับความจำเป็นก่อนสิ่งใดที่สุดของประเด็นเหล่านี้ คือปัญหาของความสามัคคีและเอกภาพของมุสลิม และการแก้ปมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดความห่างไกลกันระหว่างส่วนต่างๆ ของมุสลิม 
“ฮัจญ์” เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกภาพ   ความเป็นปึกแผ่น ความเป็นภราดรภาพและความร่วมมือ ในพิธีฮัจญ์ทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้บทเรียนของการมุ่งเน้นไปยังสิ่งต่างๆ ที่เหมือนกัน และขจัดความขัดแย้งต่างๆ  
มืออันสกปรกจากนโยบายต่างๆ ของนักล่าอาณานิคมนับจากอดีต ที่ได้กำหนดแผนการสร้างความแตกแยกเป็นวาระในการดำเนินการเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายต่างๆ อันชั่วร้ายของตน   แต่วันนี้เนื่องจากความเป็นสิริมงคลของการตื่นตัวของอิสลาม ทำให้ประชาชาติมุสลิมได้รับรู้ถึงความเป็นศัตรูของแนวรบฝ่ายมหาอำนาจและลัทธิไซออนิสต์ได้เป็นอย่างดี  และได้กำหนดจุดยืนที่มีต่อพวกเขาได้อย่างถูกต้อง  
นโยบายการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชาติมุสลิมได้ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม  ศัตรูเจ้าเล่ห์มีความเชื่อว่าด้วยกับการจุดไฟสงครามภายในระหว่างชาวมุสลิมจะทำให้แรงบันดาลใจต่างๆ ในการมุกอวิมัตและการต่อสู้เบี่ยงเบนไปจากพวกเขา และจะทำให้ระบอบไซออนิสต์และบรรดาตัวแทนของจักรวรรดินิยมซึ่งเป็นศัตรูที่แท้จริงอยู่ในชายขอบที่มีความปลอดภัย 
การใช้กลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีและกลุ่มอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันนี้ในหมู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันตกนั้น เกิดจากนโยบายบิดพลิ้วหักหลังดังกล่าวนี้  และสิ่งนี้เป็นคำเตือนที่มีมายังพวกเราทุกคนว่า จำเป็นที่พวกเราจะต้องยึดถือเอาปัญหาความสามัคคีของชาวมุสลิมในวันนี้อยู่ในแถวหน้าของภาระหน้าที่ระดับชาติและระหว่างประเทศ 

ประเด็นที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ปัญหาของปาเลสไตน์   ที่ผ่านพ้นมา 65 ปีของการก่อตั้งรัฐบาลไซออนิสต์ผู้ฉกชิง และความทุกข์ยากต่างๆ ในปัญหาที่สำคัญละเอียดอ่อนและเปราะบาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเหตุการณ์นองเลือดต่างๆ ในช่วงหลายปีมานี้ ทำให้ความจริงสองประการปรากฏอย่างชัดเจนสำหรับทุกคน  
 
ประการแรกคือ รัฐบาลไซออนิสต์และบรรดาผู้สนับสนุนอาญากรของมัน ไม่มีขอบเขตจำกัดในความโหดร้ายป่าเถื่อนและการเหยียบย่ำบรรทัดฐานต่างๆ ทางด้านมนุษยธรรมและจริยธรรม    การก่ออาชญากรรม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การทำลายล้าง การเข่นฆ่าบรรดาเด็กๆ และสตรีและผู้ไร้ที่พักพิง การละเมิดและความอธรรมทุกรูปแบบที่พวกเขาสามารถกระทำได้นั้น พวกเขาถือเป็นที่อนุมัติและเป็นความภาคภูมิใจสำหรับตนเอง  ฉากต่างๆที่ทำให้เกิดการร้องไห้และความน่าเศร้าใจของสงคราม 50 วัน ในช่วงล่าสุดของฉนวนกาซานั้น  คือตัวอย่างล่าสุดของการกระทำที่ชั่วร้ายอันเป็นประวัติศาสตร์เหล่านี้ ซึ่งมันถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา

ความจริงประการที่สองก็คือ การหลั่งเลือดและก่ออาชญากรรมเหล่านี้ไม่สามารถสนองตอบเป้าหมายของบรรดาผู้นำและผู้ให้การสนับสนุนรัฐบาลผู้ยึดครองดินแดนได้ ตรงกันข้ามกับความปรารถนาอันโง่เขลาเกี่ยวกับอำนาจและความแข็งแกร่งที่บรรดานักการเมืองชั่วร้ายได้ปลูกฝังอยู่ในความคิดที่จะให้เกิดขึ้นกับรัฐบาลไซออนิสต์  แต่รัฐบาลนี้กลับเข้าใกล้การล่มสลายและความพินาศมากขึ้นในแต่ละวัน 

การยืนหยัดต่อสู้เป็นเวลาห้าสิบวันของฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมและไร้ที่พึ่งพิงที่มีต่อพลังความสามารถทั้งหมดของรัฐบาลไซออนิสต์ที่ถูกนำออกมาใช้  และในที่สุดรัฐบาลไซออนิสต์ก็ต้องพบกับความล้มเหลวและการล่าถอย  และยอมจำนนต่อเงื่อนไขต่างๆ ของกองกำลังมุกอวะมะฮ์   และสิ่งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอและความไร้ความสามารถดังกล่าวอย่างชัดเจน  
นั่นหมายความว่าประชาชนชาวปาเลสไตน์ควรจะต้องมีความหวังมากขึ้นกว่าเดิม บรรดานักต่อสู้ของกลุ่มญิฮาด และกลุ่มฮามาสจำต้องเพิ่มความพยายาม ความมุ่งมั่นและความตั้งใจจริงของตน ซึ่งเขตเวสต์แบงก์จะต้องดำเนินแนวทางที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจนี้ ด้วยกับพลังและความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ประชาชาติมุสลิมก็จะต้องเรียกร้องการสนับสนุนที่แท้จริงและจริงจังจากรัฐบาลของตนเองต่อปาเลสไตน์ และรัฐบาลทั้งหลายของมุสลิมจะต้องย่างก้าวไปในแนวทางนี้ด้วยความซื่อสัตย์และสัตย์จริง 

ประเด็นสำคัญและมีความจำเป็นประการที่สาม คือ การมองอย่างชาญฉลาดของบรรดานักเคลื่อนไหวที่มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อโลกอิสลาม ซึ่งจะต้องมองให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างอิสลามอันบริสุทธิ์ของท่านศาสดามุฮัมมัดและอิสลามอเมริกัน  และจะต้องระวังอย่าให้ตนเองและผู้อื่นเกิดความสับสนและความผิดพลาดระหว่างทั้งสองนี้ 
ท่านอิมาม โคมัยนี ผู้ล่วงลับผู้มีเกียรติของเราเป็นบุคคลแรกที่ได้พยายามจำแนกความแตกต่างของอิสลามทั้งสองแบบนี้ และได้นำมันเข้ามาสู่พจนานุกรมทางการเมืองของโลกอิสลาม    อิสลามอันบริสุทธิ์ อิสลามที่ใสสะอาดและมีจิตวิญญาณ อิสลามแห่งความยำเกรงและเป็นประชาธิปไตยนั้น คืออิสลามที่มีความ
 «اَشِدّاءُ عَلَی الکُفّار رُحَماءُ بَینَهُم»  
 “แข็งกร้าวต่อบรรดาผู้ปฏิเสธ และมีเมตตาจิตในระหว่างพวกเขากันเอง (1)

อิสลามอเมริกัน คือการสวมเสื้อคลุมของอิสลาม เพื่อเป็นขี้ข้ารับใช้ชาวต่างชาติและการเป็นศัตรูต่อประชาชาติอิสลาม  อิสลามที่คอยจุดไฟแห่งความแตกแยกและขัดแย้งให้เกิดขึ้นในหมู่ชาวมุสลิม แทนที่จะให้ความไว้วางใจต่อพันธะสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า กลับให้ความไว้วางใจต่อบรรดาศัตรูของพระผู้เป็นเจ้า แทนที่จะต่อสู้กับลัทธิไซออนิสต์และจักรวรรดินิยม กลับมาต่อสู้กับพี่น้องมุสลิม แต่เป็นพันธมิตรกับอเมริกาจอมอหังการเพื่อต่อต้านประชาชนของตัวเองหรือของประเทศอื่นๆ  อิสลามแบบนี้หาใช่อิสลามไม่ แต่มันคือความกลับกลอกที่เป็นอันตรายและสร้างความหายนะ  ซึ่งมุสลิมที่แท้จริงและซื่อสัตย์ทุกคนจำเป็นต้องต่อสู้กับมัน 

การมองที่ประกอบไปด้วยบะซีเราะฮ์ (รู้แจ้ง) และความเข้าใจที่ลึกซึ้งนั้น จะทำให้ข้อเท็จจริงและปัญหาที่สำคัญในเหตุการณ์เหล่านี้ ซึ่งในความเป็นจริงของโลกอิสลามแล้วเป็นที่ชัดเจนสำหรับผู้ค้นหาความจริงทุกคน และจะสามารถกำหนดภารกิจและหน้าที่ในวันนี้ให้แก่พวกเขาได้โดยไม่เคลือบแคลงสงสัย

พิธีกรรมฮัจญ์และสัญลักษณ์ต่างๆ ของมัน คือโอกาสอันดีงามสำหรับการแสวงหา บะศีเราะฮ์ (ความเข้าใจที่ลึกซึ้งดังกล่าว) และหวังว่าท่านทั้งหลายผู้ซึ่งได้รับความสำเร็จในการประกอบพิธีฮัจญ์ จะได้รับประโยชน์อย่างสมบูรณ์จากของขวัญแห่งพระผู้เป็นเจ้านี้ 

ข้าพเจ้าขอมอบหมายพวกท่านไว้กับพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ และขอวิงวอนต่อพระองค์โปรดทรงตอบรับความอุตสาห์พยายามของพวกท่านทั้งหลายด้วยเถิด 


والسّلام علیکم و رحمة الله‌

ขอความสันติและความเมตตาจากอัลลอฮ์ จงประสบแด่ท่านทั้งหลาย 

ซัยยิดอาลี คาเมเนอี

วันที่ 5 ซุลฮิลญะฮ์ ฮ.ศ. 1435
700 /