สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานาธิบดีและบรรดาสมาชิกสภาสูงสุดเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุด

“เราจะไม่ไว้วางใจพวกต่างชาติในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันขาด”

ประธานาธิบดีและบรรดาสมาชิกสภาสูงสุดเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ได้เข้าพบกับท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำได้ชี้ให้เห็นถึง ประเด็นหลักที่สำคัญ 4 ประการ สำหรับเศรษฐกิจของประเทศ กล่าวคือ การแก้ปัญหาในการขาดดุลงบประมาณของประเทศ การเพิ่มการลงทุน การส่งเสริมการผลิต และการสนับสนุนกลุ่มชนที่ด้อยโอกาส โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “จำเป็นที่จะต้องมีความเพียรพยายามอย่างจริงจัง และมีการติดตามของบรรดาเจ้าหน้าที่ฯ ซึ่งจะส่งผลอย่างชัดเจนในการใช้กลยุทธ์ทางการปฏิบัติจากการดำเนินชีวิตของประชาชน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นปัญหาหลักของประเทศ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องเลือกประเด็นเศรษฐกิจ มาเป็นคำขวัญของทุกปีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน ประชาชนก็ประสบกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่แล้ว ก็มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าที่รุนแรงมากขึ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า  “วัตถุประสงค์ของการจัดการประชุมในครั้งนี้ คือ การอธิบายเกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการปฏิบัติที่จะส่งผลในระยะสั้นและการกำหนดถึงผลสะท้อนต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งแน่นอนว่า การดำเนินการในกลยุทธ์ทางการปฏิบัติและผลสะท้อนเหล่านี้ จะต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างจริงจังและมีความพยายามในการติดตามอย่างต่อเนื่องของบรรดาผู้นำทั้งสามสภาฯ และเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับทั้งสามสภาฯในหน่วยงานของพวกเขา”

ก่อนที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม จะกล่าวถึงกลยุทธ์ต่างๆ ท่านผู้นำได้กล่าวอธิบายใน 2 ประเด็นที่สำคัญ  โดยท่านกล่าวเสริมว่า “บรรดาผู้เชี่ยวชาญนั้นมีกลยุทธ์ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ปัญหานี้ จึงไม่ใช่ว่าจะมีกลยุทธ์ หรือไม่มีกลยุทธ์ แต่ทว่า เรานั้นจะต้องมีความอุตสาหะ ความกล้าหาญ และความเพียรพยายามอย่างจริงจัง รวมทั้งการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้ชี้ถึงประเด็นที่สอง โดยถือว่า ปัญหาการคว่ำบาตร เป็นความจริงที่ขมขื่นและเป็นอาชญากรรมของสหรัฐและเหล่าภาคีพวกยุโรปที่ต่อต้านประชาชาติอิหร่าน โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “อาชญากรรมเหล่านี้ ได้กระทำต่อประชาชาติอิหร่าน มาหลายปีแล้ว แต่ทว่าได้ทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เน้นย้ำว่า มีสองวิธีการในการเยียวยามาตรการคว่ำบาตร คือ “การทำให้การคว่ำบาตรนั้นเป็นกลาง และการเอาชนะมัน” และ “การยกเลิกการคว่ำบาตร” โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่า เรานั้นได้ก้าวผ่านเส้นทางในการยกเลิกการคว่ำบาตรมาแล้วครั้งหนึ่ง และได้มีการเจรจากันมาหลายปี แต่เราก็ยังไม่ได้ข้อสรุป”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงเส้นทางในการเอาชนะการคว่ำบาตรและการทำให้ไม่ให้มีผลกระทบ โดยท่านกล่าวว่า “เส้นทางนี้ อาจจะมีความยากลำบากและเกิดปัญหาต่างๆในช่วงแรก แต่ก็จะจบลงอย่างมีความสุข”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า "หากเราสามารถที่จะเอาชนะการคว่ำบาตรได้ด้วยกับความเพียรพยายามและการมีนวัตกรรมใหม่ๆและการป้องกันตัวเองในการเผชิญกับปัญหาต่างๆ ในขณะที่ฝ่ายตรงกันข้าม จะเห็นว่าการคว่ำบาตรนั้นไม่ได้เกิดผล ก็จะค่อยๆยกเลิกในการคว่ำบาตรอย่างแน่นอน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวสรุปในประเด็นเบื้องต้นไว้ 2 ประเด็นดังนี้ “เรานั้น มีขีดความสามารถและศักยภาพอย่างมาก ในการทำให้การคว่ำบาตรไม่ได้เกิดผล หากว่าเรานั้นมีความต้องการ และมีความอุตสาหะ แล้วก็จะประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาต่างๆ”

หลังจากนั้น ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวถึงวิธีแก้ปัญหาบางประการที่นำเสนอโดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญและใน 4 หัวข้อ กล่าวคือ “การขาดดุลงบประมาณของประเทศ”  “การเพิ่มการลงทุนของรัฐบาลและสถาบันต่างๆของรัฐ” “การส่งเสริมการผลิต” และ “การสนับสนุนกลุ่มชนผู้ด้อยโอกาส” และโดยท่านผู้นำได้แสดงความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินการเหล่านี้ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศและการดำเนินชีวิตของประชาชน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นว่า แม้จะมีการดำเนินการไปแล้วบ้างในบางส่วน แต่ทว่า คำขวัญของปีนี้ ก็ยังไม่ได้เป็นจริงตามที่ได้คาดหวังไว้ โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า  “บรรดาผู้เชี่ยวชาญในภาครัฐและภาคเอกชนได้นำเสนอบางกลยุทธ์ในการปฏิบัติการโดยเฉพาะสำหรับการส่งเสริมการผลิต เช่น การเพิ่มการผลิตรถยนต์ด้วยการใช้ศักยภาพจากผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ การเพิ่มการผลิตอุตสาหกรรมน้ำมันโดยอาศัยความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำมัน  และการเพิ่มการผลิตอาหารสัตว์และเมล็ดพืชน้ำมัน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสนับสนุนต่อกลุ่มชนผู้ด้อยโอกาส โดยท่านกล่าวเสริมว่า  “เศรษฐกิจของครอบครัวนั้น ได้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างรุนแรง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่ซบเซา และในขณะนี้ ก็มีการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่า  จึงได้มีปัญหาต่างๆเพิ่มมากขึ้น และความยากลำบากในค่าครองชีพที่สูงขึ้นสำหรับผู้คนในหลายกลุ่ม ก็จะต้องดำเนินการกันอย่างจริงจังในประเด็นนี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การสร้างระบบการประกันสังคมสำหรับประชาชนทุกคน และ การสร้างฐานข้อมูลระดับชาติสำหรับชาวอิหร่านโดยการเชื่อมต่อฐานข้อมูลต่างๆให้เข้าด้วยกัน   คือ คำแนะนำของบรรดาผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดทอนปัญหาของประชาชน

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นย้ำอีกว่า เราจะต้องตั้งสมมติฐานที่ว่าจะไม่มีการแก้ปัญหาจากภายนอก โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ผู้ที่บางคนนั้นมีความหวังกับพวกเขา กลับแสดงออกถึงความเป็นศัตรูกับเรา ในขณะที่สถานการณ์ภายในของพวกเขานั้นก็ไม่ชัดเจนและยังมีปัญหาครั้งล่าสุด ซึ่งไม่อนุญาตให้พวกเขาพูดและแสดงจุดยืนในประเด็นระหว่างประเทศและยังไม่สามารถให้ค่าและวางแบบแผนงานร่วมกับพวกเขาได้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงการพูดจาที่ไร้สาระครั้งล่าสุดของประเทศยุโรปทั้งสามประเทศ โดยท่านกล่าวว่า “สถานการณ์ของสหรัฐอเมริกานั้น ยังไม่เป็นที่ชัดเจน ขณะที่พวกยุโรปกลับแสดงจุดยืนในการต่อต้านอิหร่านมาโดยตลอดเวลา พวกเขาได้บอกเราว่า อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวในภูมิภาคนี้ ในขณะที่พวกเขาเองก็มีส่วนในการแทรกแซงที่ผิดพลาดอย่างมากในกิจการของภูมิภาคนี้และในขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศสต่างมีขีปนาวุธนิวเคลียร์ในการทำลายล้างและเยอรมนีเองก็อยู่ในเส้นทางนี้ พวกเขากลับบอกเราว่า พวกท่านอย่าได้มีขีปนาวุธเป็นอันขาด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า “แล้วมันไปเกี่ยวข้องอะไรกับพวกคุณด้วยหรือ ซึ่งอันดับแรก พวกคุณจะต้องแก้ไขตัวเองเสียก่อนแล้วจึงจะแสดงความคิดเห็นออกมา”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้เน้นว่า “เราไม่สามารถไว้วางใจกับพวกต่างชาติได้และให้ความหวังกับพวกเขาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ตั้งข้อสังเกตในช่วงท้ายว่า “หากมีการขับเคลื่อนและการดำเนินการที่เป็นไปตามวาระและการงานต่างๆที่สามารถจะกระทำได้ โดยจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งแน่นอนว่า ในสมัยรัฐบาลที่ 12 ก็จะประสบความสำเร็จอย่างดีทีเดียว”

ก่อนในการกล่าวสุนทรพจน์ของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม พณฯท่าน โรฮานี ประธานาธิบดี ได้กล่าวรายงานถึงการจัดการประชุมของสภาสูงสุดเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ มีการจัดประชุมมาแล้วถึง 50 ครั้ง นับตั้งแต่การก่อตั้ง โดยเขากล่าวเสริมว่า “ในการประชุมเหล่านี้มีทั้งหมด 226 โครงการในภาคส่วนต่างๆ รวมทั้ง การสร้างงาน การปรับปรุงการธนาคารและงบประมาณของประเทศ ความโปร่งใส ความเป็นระบบ การลงทุน การขายน้ำมันและการควบคุมราคาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและสินค้าหลัก เป็นต้น

 

700 /