สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

แรงงานจำนวนหนึ่ง เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฎิวัติอิสลาม

“มุมมองอิสลามต่อแรงงานคือ การรู้จักถึงคุณค่าของแรงงาน”

กลุ่มแรงงานจำนวนหนึ่ง ได้เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า บรรดาแรงงาน คือ เสาหลักในการผลิต และท่านยังได้ชี้ให้เห็นถึง สามประเด็นหลักที่เกี่ยวข้องกับแรงงานทั้งหลาย กล่าวคือ ความจำเป็นในการสร้างโอกาสจากการสร้างงาน การจัดระเบียบอย่างยุติธรรมระหว่างการประกอบอาชีพและการลงทุน และการสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ โดยท่านผู้นำกล่าววว่า “การนำเข้าที่ไม่ถูกต้องตามหลักการและข้อกฏหมาย จะเป็นการบั่นทอนการผลิตในประเทศและการสร้างงานของบรรดาแรงงานทั้งหลาย ฉะนั้น จึงจะต้องมีการหลีกเลี่ยงอย่างจริงจังและในประเทศก็จะต้องมีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ทั้งประชาชนและหน่วยงานภาครัฐฯก็จะต้องให้ความสำคัญในการซื้อสินค้าที่มีการผลิตในประเทศอีกด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงแบบแผนที่สำคัญของรัฐบาลในประเด็นทางเศรษฐกิจ โดยท่านได้เน้นย้ำว่า “ทุกๆสภาทั้งหมด หน่วยงานต่างๆและประชาชนทั้งหลาย ก็จะต้องให้ความช่วยเหลือกับรัฐบาล”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า เป้าหมายในการพบปะกับบรรดาแรงงาน คือ การกล่าวแสดงความขอบคุณและการรู้จักถึงคุณค่าของพวกเขาทั้งหลาย โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำถึง คุณค่าของการประกอบอาชีพ โดยท่านได้ชี้ถึงมุมมองของอิสลามที่มีต่อแรงงานและการประกอบอาชีพ โดยท่านกล่าวว่า “ตรงกันข้ามกับมุมมองของลัทธินักล่าอาณานิคมของระบอบทุนนิยมและมุมมองที่เป็นเพียงสโลแกนของระบอบคอมมิวนิสต์ ขณะที่ในมุมมองของอิสลามที่มีต่อแรงงานนั้น คือ การรู้จักถึงคุณค่าของแรงงาน ด้วยเหตุนี้เอง ท่านศาสดา ผู้ทรงเกียรติของอิสลาม จึงได้ทำการจูบมือของบรรดาผู้ใช้แรงงาน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำถึงการมีความจำเป็นในการสร้างวัฒนธรรมทางสังคม ที่เกี่ยวข้องกับคุณค่าของการประกอบอาชีพของเจ้าหน้าที่รัฐฯ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากและยังเป็นการเพิ่มพูนทักษะของแรงงานทั้งหลายอีกด้วย

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ถึงแรงบันดาลใจแห่งชาติและความโดดเด่นของบรรดาแรงงานในเวทีการต่างๆ เช่น เวทีทางการทหาร เศรษฐกิจ และการเมือง โดยท่านกล่าวว่า “ตัวอย่างที่เด่นชัดในเวทีทางการทหาร คือ การได้รับตำแหน่งชะฮีดของบรรดาแรงงานถึงหนึ่งหมื่นสี่พันคน ในช่วงยุคสมัยของการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ หากว่ามีการขับเคลื่อนทางการทหารใดก็ตาม สังคมแรงงานก็จะเป็นส่วนหนึ่งในแถวหน้าของการขับเคลื่อนนั้นๆ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวเสริมเกี่ยวกับประเด็นแรงบันดาลใจแห่งชาติของบรรดาแรงงานในเวทีทางเศรษฐกิจ โดยท่านกล่าวว่า “หนึ่งในนโยบายหลักของชาติมหาอำนาจ นับตั้งแต่เริ่มต้นการได้รับชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม ก็คือ การไร้ความสามารถในการผลิตของประเทศในหลายปีที่ผ่านมา และการคว่ำบาตรที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป้าหมายนี้นั้นเป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่ง แต่ทว่าบรรดาแรงงานก็จะต้องมีการยืนหยัดเพื่อเป็นอุปสรรคขัดขวางในการบรรลุเป้าหมายนี้ และในเวทีการนี้ พวกเขาก็ยังเป็นเสาหลักของการผลิตอีกด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ให้เห็นถึงการขับเคลื่อนของแรงงานทั้งหลายในช่วงแรกของชัยชนะในการปฏิวัติอิสลาม โดยท่านผู้นำได้ตั้งข้อสังเกตว่า “เป้าหมายของการขับเคลื่อนเหล่านี้ คือ การเปลี่ยนแปลงของสังคมแรงงานมาเป็นกระบอกเสียงและสัญลักษณ์ของการเรียกร้องของประชาชน แต่ทว่าแรงงานทั้งหลายในเวทีทางการเมืองก็มีบทบาทในการขับเคลื่อนอีกเช่นเดียวกัน โดยพวกเขาได้ทำให้เหล่าศัตรูต้องยอมสยบและจมูกของพวกเหล่านี้ถูกถูไปกับพื้นดิน ทั้งบรรดาแรงงานยังอยู่เคียงข้างกับรัฐอิสลามและการปฏิวัติมาโดยตลอดและตลอดไปอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่า การมอบหมายโรงงานที่ไม่ถูกต้องและการประท้วงของแรงงานทั้งหลาย ถือเป็นความชอบธรรม แต่ทว่าในกรณีเหล่านี้เห็นได้ว่า บรรดาแรงงานได้กำหนดขอบเขตกับเหล่าศัตรูอย่างชัดเจน ซึ่งประเด็นนี้นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากและข้าพเจ้าจึงต้องขอกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อการมีความเข้าใจและการมีบะศีรัต(การรู้แจ้งเห็นจริง)ทั้งความรับผิดชอบของพวกเขาอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาต่างๆของสังคมแรงงาน โดยท่านได้กล่าวแสดงความหวังว่า ด้วยกับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ จะทำให้ปัญหาเหล่านี้จะค่อยๆคลี่คลายออกไปจนหมดสิ้น”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเพิ่มโอกาสในการสร้างงาน การจัดระเบียบความสัมพันธ์ระหว่างการประกอบอาชีพกับการลงทุนอย่างยุติธรรม และการสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพของบรรดาแรงงาน เป็นสามประเด็นหลักในปัญหาของแรงงาน โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ทั้งหลาย จะต้องมีความพยายามเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างงานและด้วยกับการลงทุนของภาคส่วนเอกชนและการบริหารจัดการอย่างถูกต้องของรัฐบาลในการชี้แนะของการลงทุนทั้งหลาย เพื่อไปสู่การใช้ศักยภาพและการฟื้นฟูโอกาสในการสร้างงานที่มีความเป็นไปได้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำว่า “หนึ่งในกรณีเหล่านี้ที่สามารถจะฟื้นฟูโอกาสในการสร้างงานและการขจัดปัญหาการว่างงานของนักศึกษา ก็คือ การเพิ่มขึ้นของบริษัทฐานความรู้ แต่แน่นอนว่า บริษัทฐานความรู้ทั้งหลายนี้ ก็จะต้องเป็นฐานความรู้ด้วยความหมายที่แท้จริง ซึ่งในสภาพเช่นนี้ สามารถที่จะเพิ่มการสร้างงานได้”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า แรงงานและผู้ประกอบการ เป็นดั่งสองปีกหลัก โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “การจัดระเบียบระหว่างการประกอบอาชีพและการลงทุน หรือความสัมพันธ์ระหว่างแรงงานกับผู้ประกอบการ ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องการความคิด การบริหารจัดการ ความเพียรพยายาม ความอดทน และการไม่ไปสู่การงานที่ไม่ได้รับการพิจารณา”

ความมั่นคงในการสร้างงานของบรรดาแรงงาน เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวถึง โดยท่านกล่าวว่า “กรณีเช่นสัญญาการจ้างงานชั่วคราวที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นคงในการสร้างงาน ก็ควรที่จะได้รับการแก้ไขในลักษณะที่ภายใต้กฎหมายที่มีความชอบธรรม ทั้งแรงงานเกิดความสบายใจและผู้ประกอบการก็สามารถที่จะรักษากฏระเบียบวินัยในการทำงาน”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ไม่ถือว่า ความไม่มั่นคงในการสร้างงานนั้นจำกัดอยู่ที่ประเด็นเรื่องสัญญาจ้างงาน โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ด้วยกับผลกระทบของการผลิตในประเทศ แรงงานและการประกอบอาชีพของแรงงานก็ได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน และนี่คือเหตุผลที่จะต้องกล่าวเน้นย้ำหลายต่อหลายครั้งมาแล้วจากการเสริมสร้างการผลิตแห่งชาติให้มีความเข้มแข็ง”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การลักลอบและการนำเข้าสินค้าที่ผลิตในประเทศและมีคุณภาพอย่างไม่ถูกต้อง เป็นการใช้มีดกรีดกลางในหัวใจของการผลิตในประเทศ โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “ตามสถิติของบรรดาผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการนำเข้าสินค้าที่ผลิตในประเทศทุกพันล้านดอลลาร์ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า และเครื่องใช้ในครัวเรือน จะนำไปสู่การยุติโอกาสในการสร้างงานถึง 100,000 ตำแหน่งในประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่าผู้ผลิตรถยนต์ก็ไม่ควรที่จะฉวยโอกาสใช้ประโยชน์ที่ผิดจากคำพูดนี้ เพราะสถานการณ์ของพวกเขาไม่มีคำจำกัดความและจุดประสงค์ก็คือสถานที่ๆมีการผลิตที่ดีและมีคุณภาพ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การพิจารณาสินค้าของต่างประเทศว่าดีกว่าสินค้าในประเทศ เป็นการสร้างความเสียหายให้กับแรงงานในประเทศมากกว่าแรงงานของต่างประเทศ โดยท่านกล่าวว่า “เราต้องการขอเชิญชวนให้ประชาชนทั้งหลายให้ความสำคัญในการซื้อผลิตภัณฑ์ในประเทศ ซึ่งผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของประเทศก็คือ รัฐบาลที่จะต้องมีความเพียรพยายามที่จะไม่บริโภคสินค้าของต่างประเทศ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้กล่าวต่อไปถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งของการประกอบอาชีพและความสวยงามของผลิตภัณฑ์ คือ หนึ่งในหน้าที่ความรับผิดชอบของแรงงานและผู้ประกอบการ โดยท่านกล่าวว่า “ระบบการศึกษาของประเทศ ก็จะต้องมีความใกล้เคียงกับสภาพของการปฏิบัติและการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น และในภาคส่วนของการผลิต ก็จะต้องมีการเสริมทักษะให้บรรดาแรงงานให้มากยิ่งขึ้นไปในลักษณะที่มีความคิดสร้างสรร มีรสนิยม มีการรู้จักคุณค่าของการประกอบอาชีพและผลิตภัณฑ์ในสายตาของลูกค้า”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวขอบคุณต่อการยืนหยัดของบรรดาแรงงานอีกครั้งในการเผชิญหน้ากับความยั่วยุของศัตรู โดยท่านกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ทั้งหลายและผู้บริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับสังคมแรงงาน จะต้องปฏิบัติตามแบบแผนของตนเองตามที่ได้ให้สัญญาไว้”

ในช่วงท้ายของการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ท่านได้ชี้ให้เห็นถึงแบบแผนเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยท่านได้เน้นย้ำว่า “ภารกิจทางด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่กำลังกระทำอยู่ในวันนี้นั้น เป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทั้งทุกสภาฯ หน่วยงานต่างๆและประชาชนทั้งหมดจะต้องให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหากพระเจ้าทรงประสงค์ก็จะบรรลุผลลัพท์ได้อย่างแน่นอน”

ในช่วงเริ่มต้นของการพบปะกันครั้งนี้ พณฯท่านอับดุลมาลิกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์ แรงงานและสวัสดิการสังคม ได้กล่าวนำเสนอรายงานเกี่ยวกับแบบแผนงานและการดำเนินการของกระทรวงในด้านการสร้างงาน การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ การประกันสังคมและการบริหารจัดการบริษัทฐานความรู้

 

700 /