สำนักผู้นำสูงสุดซัยยิด อาลี คาเมเนอี

ประธานาธิบดีพร้อมคณะรัฐบาล เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

การเข้าร่วมของประชาชาติเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ

ประธานาธิบดีพร้อมคณะรัฐบาล เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำถือว่า การตรวจสอบ การอธิบายในการทำงานของรัฐบาลและการรำลึกความทรงจำ รวมทั้งการทำให้เหตุการณ์ที่สำคัญของการปฏิวัติอิสลามได้มีชีวิตชีวาในตลอดช่วง 43 ปีนั้น เป็นสองกระบวนทัศน์หลักของสัปดาห์แห่งรัฐบาล และท่านผู้นำยังได้กล่าวอธิบายถึงความสำเร็จในช่วง 1ปีของรัฐบาล โดยท่านได้เน้นย้ำถึงคำแนะนำที่สำคัญ เช่น ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ถือเป็นปัญหาแรกของประเทศ โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ประชาชนได้กลายเป็นวีรบุรุษหลักในหน้าประวัติศาสตร์ของการปฏิวัติอิสลามในทุกๆเหตุการณ์และปรากฏการณ์ต่างๆ ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ ถือเป็นบทเรียนและเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ และยังได้แสดงให้เจ้าหน้าที่ทั้งหลายเห็นด้วยว่า ควรปฏิบัติอย่างไรกับประชาชน”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ชะฮีดราญาอีและชะฮีดบอฮุนัร ทั้งสองคนนั้นป็นผู้บริหารในอันดับต้นของการปฏิวัติอิสลาม และท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นว่า “การได้รับฐานภาพของการเป็นชะฮีดนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะทรงประทานผลรางวัลที่ดีงามให้กับพวกเขาทั้งสองคน โดยท่านกล่าวว่า “ความเพิกเฉยและการละเลยต่อเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ จะสร้างความเสียหายอย่างมากมาย ซึ่งทั้งหมดนั้นควรที่จะต้องหลีกเลี่ยงจากสิ่งนี้”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความกระตือรือร้นโดยทั่วไปของประชาชาติในยุคสมัยของการปฏิวัติอิสลาม ได้สร้างความฉงนใจให้กับชาติมหาอำนาจ จอมอหังการในการเผชิญหน้ากับความยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติอิสลาม ความเป็นปฏิปักษ์อย่างไม่หยุดหย่อนของเหล่าอันธพาลของโลก ความไร้ที่พึ่งของประเทศและเมืองหลวงในการเผชิญหน้ากับการโจมตีทางอากาศของซัดดาม การแพร่กระจายของผู้ก่อการร้ายทั่วประเทศและความไม่มั่นคงในช่วงปีแรกๆของการปฏิวัติอิสลาม ผลงานของรัฐบาลและการจัดตั้งรัฐสภาต่างๆหลังจากการปฏิวัติอิสลาม การเข้าร่วมของประชาชาติที่เป็นตัวบ่งชี้ในการสร้างวีรกรรมในการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์และในสนามต่างๆในการเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรู และการเข้าร่วมของประชาชนที่น่ายกย่องในการเดินขบวนและพิธีการต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ถือว่า เป็นประเด็นที่สำคัญที่จะต้องจารึกในหัวใจของสังคมตลอดไป”

ในบริบทนี้ ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้กล่าวระลึกถึงความทรงจำอันอมตะในการเข้าร่วมของประชาชาติในพิธีการแห่ศพของท่านนายพลกอเซม สุไลมานี โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า “ประเด็นที่คล้ายคลึงกันในการเข้าร่วมอย่างเต็มความหมายและความกว้างขวางของประชาชนในพิธีการแห่ศพของท่านอยาตุลลอฮ์ นาซิรีในเมืองอิศฟาฮาน และการเข้าร่วมอย่างน่ามหัศจรรย์ของประชาชนจากการเป็นแขกในวันอีดเฆาะดีร ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ประชาชาตินั้นมีทิศทางที่ชัดเจนและดำเนินตามเส้นทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การตรวจสอบและการจัดการในการดำเนินงานต่างๆของรัฐบาล เป็นผลงานชิ้นที่สองในสัปดาห์แห่งรัฐบาล และท่านผู้นำยังได้ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จต่างๆของรัฐบาลและท่านได้กล่าวคำแนะนำให้แก่ประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐบาล

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การทำให้ประชาชนมีความหวังและความไว้วางใจ เป็นความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ประชาชนได้เห็นว่ารัฐบาลอยู่ท่ามกลางภาคสนามและกำลังสาละวนกับการทำงานและความพยายามสำหรับการแก้ไขปัญหาต่างๆและการรับใช้ต่อพวกเขา ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ ได้เพิ่มความหวังและความไว้วางใจของประชาชนเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่า ความพยายามเหล่านี้ได้เห็นผลลัพท์ในบางประเด็นและในบางประเด็นจน ณ บัดนี้ ก็ยังไม่บรรลุผลลัพท์ที่จำเป็นแต่อย่างใด”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การจัดคณะรัฐบาลสัญจร เป็นประเด็นที่มีความโดดเด่นและมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยท่านกล่าวเสริมว่า “การเดินทางสัญจรทั่วประเทศทั้ง 31 ครั้งในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาของรัฐบาล เช่น การเดินทางไปยังเขตพื้นที่ของบรรดากลุ่มชนผู้ด้อยโอกาสและพื้นที่ๆห่างไกลจากผู้คน การติดตามการทำงานภาคสนามและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างลึกซึ้งกับประชาชน ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาล”

ความรวดเร็วในการทำงานและการเข้าร่วมในพื้นที่ๆเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การไม่คาดการณ์ล่วงหน้า แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจของรัฐบาลกับประชาชน การกำจัดการแข่งขันในเชิงลบและการโต้แย้งกันระหว่างความสัมพันธ์ของสภาทั้งหลาย เป็นสาเหตุที่จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนในหัวใจของพวกเขา การเน้นย้ำถึงการระมัดระวังอย่างจริงจังของสามสภาในความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะสร้างความสงบสุข และความเป็นรัฐบาลของชนรุ่นใหม่ เยาวชนคนหนุ่มสาว ทั้งหมดนี้ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติได้กล่าวถึง

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า “แน่นอนว่า บรรดาผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เยาวชนคนหนุ่มสาว ยังพบกับความผิดพลาดในบางกรณี แต่ทว่าการบ่มจิตวิญญาณแห่งเยาวชนในรัฐบาลและรัฐสภา รวมทั้งการอบรมฝึกฝนบรรดาผู้บริหารที่มีความแข็งแกร่ง เป็นการอดทนที่ทรงคุณค่าต่อความผิดพลาดเหล่านี้และจะต้องถูกขจัดออกไปอย่างช้าๆทีละเล็กทีละน้อย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การนำสังคมออกจากการรอคอยด้วยความหวังจากภายนอก เพื่อการตัดสินใจและการดำเนินการของผู้อื่น การออกห่างจากการตั้งเงื่อนไขในเหตุการณ์ต่างๆของประเทศ และการให้ความสำคัญต่อศักยภาพภายในของประเทศนั้น เป็นอีกความสำเร็จหนึ่งของสภาแห่งการบริหารจัดการประเทศ

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า รัฐบาลสมัยที่ 13 เป็นรัฐบาลที่มีความรู้จักในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ โดยท่านกล่าวว่า “ในหนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่ได้ยินเลยว่ารัฐบาลได้ออกมาแก้ตัวและกล่าวข้ออ้างหรือกล่าวว่า เรานั้นไม่มีอำนาจหรือพวกเขาไม่ได้รับอนุญาต”

การทัศนคติที่ดีในเวทีนโยบายทางด้านการต่างประเทศและวัฒนธรรม ความโดดเด่นของสโลแกนของการปฏิวัติอิสลาม เช่น การเรียกร้องสู่ความยุติธรรม การสนับสนุนต่อกลุ่มชนที่ด้อยโอกาส การออกห่างจากการเป็นชนชั้นสูงและการต่อสู้กับชาติมหาอำนาจ ทั้งหมดนี้ ถือเป็นประเด็นที่โดดเด่นของรัฐบาลซึ่งท่านผู้นำสูงสุดได้กล่าวถึง

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำว่า “รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามแนวปฏิบัติและวิธีการทำงานนี้ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จที่เพิ่มมากขึ้น”

ในประเด็นต่อมา ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ให้คำแนะนำหลายประการกับรัฐบาล

คำแนะนำประการแรกของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี  คือ การรู้จักขอบคุณต่อความโปรดปรานที่ประสบความสำเร็จในการรับใช้ประชาชน โดยท่านผู้นำกล่าวว่า “การรู้จักบุญคุณต่อความโปรดปรานนี้ ในอันดับแรก คือ การเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า ดุอา(การขอพร) การตะวัซซุล (การแสวงหาสื่อ) ความนอบน้อมถ่อมตนและการสร้างสายสัมพันธ์กับอัลกุรอาน และในอันดับต่อมา ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการเพียรพยายามเพื่อที่จะรับใช้ต่อประชาชน”

การมีเจตจำนงอันบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้าและการออกห่างจากการสร้างภาพ ถือเป็นคำแนะนำประการที่สองของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ตั้งข้อสังเกตในประเด็นนี้ว่า “การประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวกับการดำเนินการที่กระทำลุล่วงไปแล้ว ไม่ได้ขัดแย้งกับความบริสุทธิ์ใจ เพราะว่า จะเป็นสาเหตุให้ประชาชนนั้นมีความหวังมากเพิ่มขึ้น”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวในคำแนะนำประการที่สามว่า “พวกท่านจะต้องอยู่ร่วมกับประชาชนต่อไปและอย่าได้จมปลักอยู่กับการกุข่าวลือและแน่นอนว่า ในการรับมือกับประชาชน พวกเขาจะต้องอดทนเป็นอย่างมาก”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การพบปะกับประชาชนโดยตรงของประธานาธิบดีและบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯ เป็นสิ่งที่มีความเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งและมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก โดยท่านกล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่า รัฐบาลแห่งประชาชนนิยม ไม่ได้มีความหมายเฉพาะกับการเข้าไปหายังประชาชนเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องมีการวางแบบแผนที่มีความละเอียดถี่ถ้วนและการใช้ประโยชน์จากวิสัยทัศน์และทัศนคติต่างๆ เพื่อที่จะดึงดูดประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในด้านต่างๆ รวมถึงด้านเศรษฐกิจและการเมืองด้วย”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ได้กล่าวในคำแนะนำประการที่สี่ โดยท่านได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาและการหลีกเลี่ยงจากการให้คำสัญญาที่ไม่อาจจะบรรลุผลได้ ซึ่งจะเป็นการบ่อนทำลายความไว้วางใจของประชาชนและในคำแนะนำประการที่ห้า ท่านผู้นำได้ชี้ถึงประเด็นแบบแผนยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนของรัฐบาล โดยท่านกล่าวเสริมว่า “พวกท่านจะต้องมีความระมัดระวังอย่างรอบคอบและอย่าได้จมปลักในกิจวัตรประจำวันของพวกท่าน และเพื่อไม่ได้เกิดผลกระทบ พวกท่านจะต้องมีการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ที่สามารถอธิบายให้ประชาชนได้”

ในคำแนะนำประการที่หก ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวถึงความจำเป็นในการจัดอันดับความสำคัญของปัญหาต่างๆ โดยท่านกล่าวว่า “ขีดความสามารถและสิ่งอำนวยความสะดวกของรัฐบาลนั้นมีจำนวนจำกัด ฉะนั้น จึงจะต้องมีการกำหนดหัวข้อหลักอย่างชัดเจนและหลังจากนั้นหัวข้อย่อยต่างๆ ถือเป็นการจัดอันดับความสำคัญของปัญหาต่างๆ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังได้เน้นย้ำให้เห็นว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน ปัญหาสำคัญอันดับแรกของประเทศ ก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “แน่นอนว่านี้ ไม่ได้หมายความว่าเป็นการละเลยต่อหัวข้ออื่นๆ เช่น ความรู้ ความมั่นคง ผลกระทบทางสังคมและทางวัฒนธรรม แต่ทว่า เศรษฐกิจจะต้องมีความสำคัญเป็นอันดับแรก และเคียงคู่กับความผูกพันธ์ทางวัฒนธรรม”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังกล่าวถึงประเด็นเศรษฐกิจ โดยชี้ให้เห็นถึงหลายประการด้วยกัน

“ความจำเป็นในการสร้างความสามัคคีของบรรดาผู้บริหารทางด้านเศรษฐกิจ และการมีทัศนคติอันเดียวกันในประเด็นต่างๆทางเศรษฐกิจ การกำหนดในการจัดอันดับความสำคัญ การมุ่งเน้นไปยังตัวชี้วัดหลักและการติดตามผลลัพท์รายวันของประธานาธิบดี และเจ้าหน้าที่รัฐฯอื่นๆ” ทั้งหมดเหล่านี้ คือประเด็นต่างๆที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้ชี้ถึง

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวอธิบายถึงตัวชี้วัดหลักทางเศรษฐกิจ โดยท่านกล่าวว่า “ขนาดของเงินเฟ้อ การเติบโตทางเศรษฐกิจ การลงทุน การสร้างงาน รายได้ประจำปี และการลดช่องว่างทางชนชั้น ถือเป็นตัวชี้วัดที่จะต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนและอย่างต่อเนื่อง”

ในคำแนะนำประการต่อมาของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หัวข้อหลักในความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศ คือ ปัญหาทางด้านการผลิต โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำว่า “พวกท่านจะต้องจัดการอย่างเด็ดขาดต่อปัจจัยใดก็ตามที่จะทำให้การผลิตต้องพบกับความอ่อนแอ”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวถึงส่วนภาคการผลิตทางการเกษตร โดยท่านได้ชี้ให้เห็นว่าการเกิดวิกฤตการขาดแคลนอาหาร เนื่องจากสงครามในยูเครน ถือว่า ประเด็นความมั่นคงด้านอาหารนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และท่านยังได้เน้นย้ำเตือนถึงข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความจำเป็นในการพอเพียงในเรื่องสินค้าพื้นฐาน เช่น ข้าวสาลี เป็นต้น โดยท่านกล่าวเสริมว่า “ปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหาร ถือว่าเป็นปัญหาอันดับแรก ซึ่งไม่ควรเพิกเฉยเป็นอันขาด”

ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้ชี้ในประเด็นที่เกี่ยวกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม โดยกล่าวถึงปัญหาการขาดเงินทุนหมุนเวียนของหน่วยการผลิต ถือว่า การจัดหาเงินทุนนี้ เป็นภารกิจของธนาคาร โดยท่านกล่าวว่า “ธนาคารกลางได้เริ่มมีการเข้มงวดอย่างถูกต้องและทันเวลาเกี่ยวกับการควบคุมความสมดุลแผนงานของธนาคาร แต่จะต้องใช้ความระมัดระวังว่าการควบคุมนี้ควรใช้กับกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดผลผลิตของธนาคาร เช่น การซื้อที่ดินและเหรียญทองหรือกิจกรรมใดๆของสำนักงานนายหน้า และจะต้องไม่ทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับหน่วยการผลิตได้รับความเสียหายและผลกระทบอีกด้วย”

ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ในการจัดอันดับความสำคัญของประเด็นเศรษฐกิจ ถือว่า ปัญหาที่อยู่อาศัย ควรที่จะได้รับความสนใจเป็นอย่างพิเศษ โดยท่านกล่าวว่า “เรายังมีความล้าหลังอย่างมากในประเด็นที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ราคาและค่าเช่าเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวลใจเป็นมาก รวมถึงความทุกข์ทรมานและความยากลำบากของประชาชนอีกด้วย”

การก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม การเติมเต็มห่วงโซ่มูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และการป้องกันการจำหน่ายน้ำมันดิบ การเสร็จสิ้นเส้นทางสายเหนือ-ใต้และตะวันออก-ตะวันตกที่เพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งระหว่างประเทศ ตลอดจนเส้นทางคมนาคมและการขนส่งภายในประเทศ และการพัฒนาโดยใช้ศักยภาพอย่างมหาศาลของท้องทะเล เป็นการจัดอันดับความความสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามได้เน้นย้ำ โดยท่านได้ตั้งข้อสังเกตว่า “อย่าปล่อยให้ศักยภาพทางธรรมชาติและของมนุษย์จำนวนมากในประเทศต้องพบกับความสูญเปล่า”

ในช่วงท้ายของการปราศรัยของท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี โดยท่านผู้นำได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงการละทิ้งภารกิจที่กระทำได้เพียงครึ่งเดียวและจะต้องมีความอดทนอดกลั้นและการยืนหยัดอย่างมั่นคงในการงานแบบญิฮาดี เพื่อแก้ไขปัญหาที่หนาแน่นและเหลืออยู่ โดยท่านกล่าวว่า “หากว่ามีการปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ ก็จะเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่ารัฐบาลสมัยที่ 13 นี้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ มีความกระตือรือร้น และสามารถแก้ปัญหาชีวิตของผู้คน ซึ่งผลลัพท์ของมันก็จะเป็นที่พึงพอใจของพระผู้เป็นเจ้าและประชาชน”

นอกจากนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังไก้กล่าวชื่นชมต่อการรายงานของท่านประธานาธิบดีและสมาชิกอีกหลายคนของรัฐบาล โดยท่านกล่าวว่า “ความสำเร็จเหล่านี้ จะต้องมีการอธิบายด้วยกับการขับเคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้นในภาคส่วนของการสื่อสารของรัฐบาลและการประชาสัมพันธ์อย่างมีศิลปะและสร้างความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นอีกด้วย”

ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ท่านประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐบาลทั้งสี่คนได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการของรัฐบาลในช่วงปีแรกของรัฐบาลสมัยที่ 13

ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ราอีซี ได้ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากของประเทศในเดือนมุรดอด (สิงหาคม) 1400 (2022) ถือว่า การไม่ผูกมัดการดำรงชีวิตของประชาชนกับเจตจำนงของพวกต่างชาติ เป็นการดำเนินการที่สำคัญอย่างมากที่สุดของรัฐบาล โดยท่านประธานาธิบดีกล่าวว่า “ในประเด็นนี้ เมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา เรานั้นมีความเชื่อมั่นว่า สำหรับทุกปัญหานั้นมีทางออกและจะไม่มีทางตันเป็นอันขาด”

ท่านประธานาธิบดี ถือว่า การสนับสนุนและความไว้วางใจของประชาชน เป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัฐบาล โดยเขากล่าวว่า “โครงการที่สุดยอดของรัฐบาล คือ การฟื้นฟูความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและมาตรการทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามกรอบนี้”

การควบคุมการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อและสภาพคล่อง การยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าและการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ การไม่กู้เงินจากธนาคารกลางเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ การสร้างรายได้ใหม่ และจ่ายหนี้ก้อนโตที่เหลืออยู่จากเดิม การมีเสถียรภาพในการสำรองสินค้าพื้นฐาน การจัดคณะรัฐบาลสัญจรตามจังหวัดต่างๆ ด้วยยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา การเปิดใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแก้ไขการทุจริต คอร์รัปชั่น  การดำเนินตามกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะในร่างกฏหมายงบประมาณ การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านต่างประเทศจากการมุ่งเน้นถึงข้อตกลงนิวเคลียร์ เป็นการมีมุมมองที่สมดุล ตลอดจนการส่งเสริมทางการค้าและความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมดเหล่านี้ เป็นหนึ่งในแกนที่สำคัญที่สุดของรายงานของท่านประธานาธิบดีในการพบปะกันครั้งนี้

นายมุคบิร  รองประธานาธิบดีคนแรก ถือว่า ประเด็นการบริหารจัดการความผันผวนทางเศรษฐกิจการกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศ และการต่อสู้กับความยากจนและการขยายความยุติธรรม เป็นสามแกนหลักของการดำเนินการด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเขากล่าวว่า “การใช้ศักยภาพที่มีความหลากหลายของประเทศ รวมทั้งการเข้าถึง 2700 กิโลเมตร ยังทะเล เหมืองแร่ และเกษตรกรรม เป็นอีกภาคส่วนหนึ่งของการจัดอันดับความสำคัญของรัฐบาล”

นายมุรตะซาวี รองประธานาธิบดีฝ่ายการดำเนินการ ได้กล่าวรายงานเกี่ยวกับการจัดคณะรัฐบาลสัญจรตามจังหวัดต่างๆในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาและกระบวนการจัดสรรทรัพยากรเพื่อดำเนินการตามมติที่เห็นชอบ

นายมีร กาเซมี ประธานองค์กรโครงการและงบประมาณของประเทศ ได้กล่าวรายงานถึงโครงการของรัฐบาลและมาตรการด้านงบประมาณ รวมทั้งการแก้ไขรายได้ และดุลรายจ่ายของประเทศ

และเช่นกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวรายงานถึงการดำเนินการของรัฐบาลในสองประเด็น กล่าวคือ พลังน้ำและไฟฟ้า เพื่อลดปัญหาความตึงเครียดของน้ำและการป้องกันปัญหาไฟดับในช่วงฤดูร้อน เป็นอีกภาคส่วนหนึ่งของการพบปะกันในครั้งนี้

 

 

 

 

700 /