คณะเจ้าหน้าที่ผู้จัดงานการประชุมใหญ่รำลึกถึงบรรดาชะฮีดแห่งจังหวัดอัลโบร์ซ เข้าพบท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม อยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ในการพบปะกันครั้งนี้ ท่านผู้นำถือว่า หนึ่งในภารกิจที่สำคัญในสถานการณ์ปัจจุบันคือ การถ่ายทอดแรงบันดาลใจและคุณค่าของยุคสมัยแห่งการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ไปสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ โดยท่านกล่าวว่า “เยาวชนทั้งหลายของเราในปัจจุบัน เป็นเยาวชนที่ดี และแม้จะมีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างมากมายสำหรับการถ่ายทอดเนื้อหาและแนวคิดต่าง ๆ ไปสู่จิตใจของพวกเขา แต่ทว่าพวกเขาก็ยังสามารถรักษาอัตลักษณ์ทางศาสนาของตนไว้ได้ ดังนั้นจะต้องใช้พื้นฐานนี้ในการอธิบายและถ่ายทอดคุณค่าต่างๆ ไปสู่เยาวชนอย่างมีศิลปะ”
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ความใฝ่หาการได้พบพระผู้เป็นเจ้าและความรู้สึกถึงหน้าที่ทางศาสนาในหมู่นักรบแห่งยุคสมัยการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นหนึ่งในคุณค่าและแรงจูงใจอย่างมากมายของยุคสมัยนั้น และท่านยังได้เน้นย้ำให้เห็นว่า ไม่ควรปล่อยให้แรงจูงใจเหล่านี้ดับสูญ พร้อมทั้งท่านกล่าวเสริมว่า “พฤติกรรมที่เห็นจากหน่วยงานด้านวัฒนธรรมบางแห่งและหน่วยงานที่รับผิดชอบบางส่วน ไม่ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความพยายามในการถ่ายทอดคุณค่าของยุคสมัยการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์อย่างเพียงพอ”
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังได้เน้นย้ำให้เห็นถึงการถ่ายทอดคุณค่าและแรงบันดาลใจของยุคสมัยการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ไปสู่คนรุ่นใหม่ จำเป็นที่จะต้องอาศัยการทำงานอย่างมีศิลปะและการติดตามอย่างไม่หยุดยั้ง โดยท่านผู้นำได้ตั้งข้อสังเกตว่า “แม้จะมีความยากลำบาก ความขัดสน และปัญหาต่างๆ อย่างมากมาย แต่ก็ยังมีจุดแข็งและความพร้อมเป็นจำนวนมากในการขับเคลื่อนไปสู่ทิศทางของอิสลามและการปฏิวัติอิสลามในประเทศ ซึ่งควรได้รับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้มากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามยังได้กล่าวยกย่องประชาชนจังหวัดอัลโบร์ซ โดยเฉพาะครอบครัวของบรรดาชะฮีดในจังหวัดนี้ และขอบคุณต่อคณะเจ้าหน้าที่ในการจัดการประชุมใหญ่รำลึกถึงบรรดาชะฮีดของจังหวัดอัลโบร์ซ พร้อมทั้งท่านถือว่า การที่มีผู้คนจากหลากหลายพื้นที่ของอิหร่านอาศัยอยู่ในเมืองคะรัจ เป็นข้อได้เปรียบ โดยท่านกล่าวว่า “หากการรำลึกถึงบรรดาชะฮีดและการถ่ายทอดสารและคุณค่าของพวกเขาดำเนินไปอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถถ่ายทอดไปยังพื้นที่อื่นๆ ของประเทศได้ด้วยการอาศัยข้อได้เปรียบดังกล่าว”
